กกพ. ทบทวนเอฟทีภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมฯ 154.92 สตางค์/หน่วย ตามแนวทางการบริหารจัดการของกระทรวงพลังงาน

หลังจากกระทรวงพลังงานให้ ปตท. และ กฟผ. ทบทวนประมาณการสมมุติฐานราคาก๊าซธรรมชาติ ราคาน้ำมันดีเซล อัตราแลกเปลี่ยน และภาระหนี้คงค้างของ กฟผ. เพื่อบรรเทาผลกระทบผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ใช่บ้านอยู่อาศัย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต้องจ่ายค่าเอฟที 154.92 สตางค์ต่อหน่วยจากเดิมที่ต้องจ่ายค่าเอฟที 190.44 สตางค์ต่อหน่วย ดังนั้นผู้ใช้ไฟฟ้าในกลุ่มนี้จึงต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 5.33 บาทต่อหน่วยในรอบบิลค่าไฟฟ้า ม.ค. - เม.ย. 66                                                                                                                                                                                                                                นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 60/2565 (ครั้งที่ 827) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 พิจารณาผลการคำนวณค่าเอฟทีเพิ่มเติมอีกครั้งหลังจากที่ กฟผ. และ ปตท. ทบทวนประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติ ราคาน้ำมันดีเซล อัตราแลกเปลี่ยน และภาระหนี้คงค้างของ กฟผ. สำหรับการคำนวณอัตราค่าเอฟที (Ft) ตามที่ กกพ. ได้พิจารณาไปแล้วในการประชุมครั้งที่ 58/2565 (ครั้งที่ 825) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565  โดยมีสมมุติฐานที่เปลี่ยนแปลง ดังนี้

สมมุติฐาน

มติ กกพ. ในการพิจารณา
เมื่อวันที่
14 ธ.ค. 2565

ข้อมูลที่ ปตท. และ กฟผ. นำเสนอใหม่

ในการพิจารณาวันที่ 28 ธ.ค. 2565

 (เปลี่ยนแปลง)

ราคาก๊าซธรรมชาติ (บาท/ล้านบีทียู)

ราคา Pool Gas

- ก๊าซธรรมชาติอ่าวไทย

- Pool Gas

493

 

237

535

466 (-27)

 

237

496

สัดส่วนก๊าซธรรมชาติอ่าวไทย / เมียนมา / LNG

45% / 18% / 38%

45% / 18% / 38%

ราคา Spot LNG (USD/MMBTU)

31.577

29.60 (-1.98)

ราคาน้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้า (บาท/ลิตร)

31.94

28.22 (-3.72)

ปริมาณน้ำมันดีเซลในการผลิตกระแสไฟฟ้า

(ล้านลิตรต่อเดือน)

มากกว่า 400

มากว่า 400

อัตราแลกเปลี่ยน (Fx) (บาท/USD)

37

35.68 (-1.32)

การคำนวณค่า Ft

 

 

ภาระหนี้สะสมจากการเรียกเก็บ Ft ของ กฟผ. (122,257 ล้านบาท)

33.33

(ทยอยเรียกเก็บคืนภายใน 2 ปี)

22.22

(ทยอยเรียกเก็บคืนภายใน 3 ปี)

ค่า Ft ที่คำนวณได้

176.57

145.74 (-30.83)


กรณีนำก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยให้ประชาชนก่อน ตามมติ กพช.

ค่า Ft (สต./หน่วย)

ค่า Ft (สต./หน่วย)

ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย

93.43

93.43

ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น

 

190.44

(+97.01 จากงวดก่อนหน้า)

154.92 (-35.52)

(+61.49 จากงวดก่อนหน้า)


อัตราค่าไฟฟ้าในรอบบิล ม.ค. – เม.ย. 2566

ค่าไฟฟ้า (บาท/หน่วย)

ค่าไฟฟ้า (บาท/หน่วย)

ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย (Ft = 93.43 สต.)

4.72

4.72

ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น

 

5.69

(+97.01 สต., +21%)

 

5.33

(+61.49 สต., +13%)

 หมายเหตุ:* กฟผ. คำนวณกรณีศึกษาเพิ่มเติม โดยจัดสรรก๊าซอ่าวไทยเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ราคา 237 บาทต่อล้านบีทียู ในปริมาณที่ไม่เพิ่มภาระอัตราค่าไฟฟ้าจากปัจจุบัน (รวมการทยอยคืนค่า AF ให้กับ กฟผ. 22.22 สตางค์ต่อหน่วย) ตามมติ กพช. ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 28.16 จากการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด หรือประมาณ 64,980 ล้านบีทียู ในช่วงเดือนมกราคม – เมษายน 2566 ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับผู้ใช้ก๊าซรายอื่นเพิ่มขึ้นเป็น 496 บาทต่อล้านบีทียู

          จากการปรับเปลี่ยนสมมุติฐานดังกล่าวส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยยังคงต้องจ่ายค่า Ft ในอัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย และผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่นๆ ต้องจ่ายค่า Ft ในอัตรา 154.92 สตางค์ต่อหน่วย ค่า Ft
ดังกล่าวทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยยังคงจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เช่น ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตรา 5.33 บาทต่อหน่วย

          นอกจากนี้ นายคมกฤช ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป ผู้ใช้ไฟฟ้า 3 ประเภท จะได้รับการปรับลดอัตราค่าบริการรายเดือน ดังนี้

                                                                   เดิม                      ใหม่

(1)    ประเภทบ้านอยู่อาศัย ใช้มากกว่า 150 หน่วย     38.22 บาท/เดือน       24.62 บาท/เดือน

ประเภทบ้านอยู่อาศัย แรงดันต่ำ อัตรา TOU      38.22 บาท/เดือน       24.62 บาท/เดือน

(2)    กิจการขนาดเล็ก แรงดันต่ำ                         46.16 บาท/เดือน       33.29 บาท/เดือน

(3)    กิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร อัตรา TOU          228.17 บาท/เดือน       204.07 บาท/เดือน

Visitors: 5,431,954