แชร์

เดอะวิสดอมกสิกรไทย ร่วมกับ K WEALTH เกาะติดนโยบายเร่งด่วนของทรัมป์ พร้อมแนะนำการบริหารพอร์ตการลงทุนแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ลูกค้าแบบส่วนตัว

อัพเดทล่าสุด: 25 ก.พ. 2025
115 ผู้เข้าชม

เดอะวิสดอมกสิกรไทย ร่วมกับ K WEALTH  ศูนย์รวมความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน การลงทุนและประกัน จากธนาคารกสิกรไทย จัดเสวนารูปแบบพิเศษ ในหัวข้อ Investment Strategies for 2025: Thriving in the Trump-Inspired Global Economy พร้อมนำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนให้คำแนะนำวางกลยุทธ์การลงทุนแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าเดอะวิสดอมแบบส่วนตัว ระบุทั่วโลกเผชิญความท้าทายจาก 2 มหาอำนาจโลกที่อาจจุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ โดยทรัมป์เร่งเครื่อง 3 นโยบายหลัก ได้แก่ ผลักดันผู้อพยพ - ขึ้นภาษีศุลกากร สนับสนุนการขุดเจาะและผลิตน้ำมัน ขณะที่จีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญในปี 2568  เน้นแก้ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นฟูความเชื่อมั่น และเพิ่มการบริโภคในประเทศ ส่วนเศรษฐกิจไทยเตรียมรับผลกระทบจากมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย แนะจัดสัดส่วนเงินลงทุนส่วนใหญ่ใน CORE Portfolio ที่กระจายการลงทุนทั่วโลก (Global Balanced Fund) และเพิ่มโอกาสลงทุนใน SATELLITE ผ่านกองทุนตราสารหนี้เอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งกองทุนหุ้นสหรัฐฯ

นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนในตลาดโลกที่มีความผันผวนต่อเนื่อง เดอะวิสดอมกสิกรไทย พร้อมให้บริการพิเศษด้านการลงทุนในทุกมิติ เพื่อบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าเดอะวิสดอมกสิกรไทย โดยได้ร่วมกับ K WEALTH จัดเสวนาพิเศษ THE WEALTH MASTER ในภูมิภาคต่างๆ เป็นประจำ ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก K WEALTH ร่วมวิเคราะห์และวางกลยุทธ์บริหารพอร์ตลงทุนแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ลูกค้าแบบส่วนตัว เพื่อเสริมเสถียรภาพของพอร์ตให้แข็งแกร่ง และตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนมากยิ่งขึ้น

ปี 2568 มาพร้อมกับความท้าทายใหม่จากนโยบายของโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กลับมาตอกย้ำและสานต่อแนวทาง America First ผ่านมาตรการกีดกันการค้าและนโยบายการต่างประเทศที่เข้มงวด พร้อมๆ กับการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศผ่านการลดภาษีและผ่อนคลายกฎเกณฑ์การทำธุรกิจ  ในขณะที่จีนยังเผชิญกับความพยายามในการพลิกฟื้นความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและครัวเรือนผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเข้ามาช่วยประคับประคองเศรษฐกิจจีนในปี 2568 การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงจะเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่นโยบายหลักของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกระทบชัดเจน

เกาะติด ทรัมป์ เร่งเครื่อง ดัน 3 นโยบายหลัก

นางสาวศิริพร สุวรรณการ CFA, CFP® Chief Investment Officer (CIO) ของ K WEALTH ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปีนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวต่อเนื่องได้ราว 2.4% จากการบริโภคที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ดี แนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลงจะเปิดทางให้ FED ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 0.50% สู่ระดับ 3.75%-4.00% ทั้งนี้ การผลักดันนโยบาย American First อย่างเข้มข้นของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ที่มุ่งเน้นความรุ่งเรืองในประเทศจะสร้างแรงกดดันให้กับประเทศคู่ค้า และเป็นที่หวั่นวิตกทั่วโลกว่า อาจเป็นชนวนไปสู่สงครามการค้าระลอกใหม่ โดย 3 นโยบายหลักที่ทรัมป์เร่งดำเนินการ ได้แก่

นโยบายผลักดันผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ Back to Their Places ด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางตอนใต้ระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก พร้อมส่งทหารควบคุมพรมแดนแบบเต็มรูปแบบป้องกันการลักลอบเข้าเมืองและเนรเทศผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย

นโยบายภาษีศุลกากร America First Trade Policy จากแนวทางของทรัมป์ที่เตรียมขึ้นกำแพงภาษีเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศและแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่สินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดผู้นำได้ร่วมกันหาทางออกชั่วคราว โดยทั้งแคนาดาและเม็กซิโกต่างตอบรับข้อเรียกร้องของทรัมป์ในการปรับปรุงมาตรการควบคุมความมั่นคงชายแดน เพื่อปราบปรามปัญหาผู้อพยพและยาเสพติด

นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม Drill Baby, Drill ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ ส่งเสริมการสำรวจและผลิตพลังงาน เน้นนโยบายขุดเจาะน้ำมันครั้งใหญ่ และเตรียมยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เพื่อทำให้อุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐกลับมาแข็งแกร่ง และทำให้ต้นทุนด้านพลังงานถูกลง พร้อมกันนี้ ทรัมป์ ได้ลงนามถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement) ซึ่งการถอนตัวครั้งนี้ จะกระทบเป้าหมายของข้อตกลงการลดก๊าซเรือนกระจกและจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

นางสาวศิริพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่เศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์และแรงกดดันในภาคส่งออกจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ คาดเศรษฐกิจจีนเติบโตได้เพียง 4.3% โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก และแม้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่อาจพยุงเศรษฐกิจได้ในระยะสั้นเท่านั้นจนกว่าความเชื่อมั่นจะกลับมา  สำหรับประเทศไทย คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.4% จากแรงส่งในภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงและแรงกดดันในภาคส่งออกจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่เป็นคู่ค้าหลักของไทย และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 0.50% สู่ระดับ 1.75% ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกจะได้แรงหนุนการบริโภคในระยะสั้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น Easy E-receipt และโครงการเติมเงินผ่าน Digital Wallet

K WEALTH ชี้ 5 ปัจจัยหนุนการลงทุนทั่วโลก แนะกองทุนรวมตราสารหนี้เอกชน และกองทุนรวมตราสารทุนในหุ้นสหรัฐฯ*

K WEALTH มองปี 2568 เป็นปีที่ดีต่อการลงทุน โดยมีแรงสนับสนุนจาก 1) เศรษฐกิจโลกที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่ำ 2) ฐานะการเงินและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในเกณฑ์ดี 3) อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงตามทิศทางเงินเฟ้อ 4) เศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งสหรัฐฯ และจีน มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 5) เงินลงทุนจะโยกย้ายออกจากตราสารการเงินระยะสั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง เพื่อแสวงหาโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้น

สินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจ

·       กองทุนรวมตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ (Fixed Income Fund) เน้นตลาดหุ้นกู้บริษัทเอกชนเพราะผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งเศรษฐกิจที่ดีจะลดความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้

·    กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) เน้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่งรวมทั้งกำลังสนับสนุนจากนโยบาย American First สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ การเงิน และการบริโภค

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทั่วโลกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 ทำให้มีโอกาสเกิดแรงขายเป็นระยะ หากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจหรือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าคาด พร้อมกันนี้ ยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายของสหรัฐฯ รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่จะสร้างความผันผวนให้ราคาสินทรัพย์ตลอดทั้งปี  การจัดพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของนักลงทุนจึงยังเป็นปัจจัยที่ห้ามมองข้าม

ติดตามข้อมูลวิเคราะห์ด้านการเงินและการลงทุนของเดอะวิสดอมกสิกรไทย ร่วมกับ K WEALTHได้ที่ช่องทาง LINE KBank Live พร้อมลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและข่าวสาร

*คำเตือน: ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


บทความที่เกี่ยวข้อง
CKPower เผยกำไรสุทธิ Q1/2568 พลิกเป็นบวกแม้เป็นฤดูแล้ง
สะท้อนการดำเนินงานแข็งแกร่ง คาด Q2 ได้แรงหนุนต่อเนื่องจากฤดูกาล
12 พ.ค. 2025
บางกอกแอร์เวย์ส ผนึกความยั่งยืน ร่วม OR เป็นสายการบินแรก   ใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ที่ผลิตในประเทศไทย
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR
10 พ.ค. 2025
“แก้วช้างพันธุ์ไทย” คอลใหม่ สุดคิวท์ พร้อมสดชื่นกับเครื่องดื่มฟรี!
“แก้วช้างพันธุ์ไทย” คอลใหม่ ที่ใช้คำว่าน่ารักได้เปลืองมาก ผลิตจากวัสดุอย่างดี ดื่มได้อย่างปลอดภัย ไซส์ใหญ่จุใจ 900 มล. มี 5 แบบ 5 สีให้สะสม
10 พ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy