แชร์

บลจ.กสิกรไทย ชู 3 กลยุทธ์สู่ Trusted Asset Manager ตอกย้ำความไว้วางใจจากผู้ลงทุนไทยเป็นอันดับ 1

อัพเดทล่าสุด: 6 มี.ค. 2025
93 ผู้เข้าชม

บลจ.กสิกรไทย ชู 3 กลยุทธ์มุ่งสู่การเป็น Trusted Asset Manager ผู้นำด้านกองทุนที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนไทยเป็นอันดับ 1 พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและคู่ค้า โดยวางรากฐานทุกกระบวนการทำงานเพื่อสรรค์สร้างอนาคตการลงทุนอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2570

นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ร่วมแถลงวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งสู่การเป็น Trusted Asset Manager ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนไทยเป็นอันดับ 1 ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) Enhance Customer Experience ยกระดับประสบการณ์ด้านการลงทุนผ่านแนวทางการบริหารพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio พร้อมอัพเดทสถานการณ์การลงทุน มีข้อมูลเชิงลึกให้กับลูกค้า เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ 2) Collaboration with Distributors & Partners เสริมแกร่งความร่วมมือผ่านธนาคารกสิกรไทย และตัวแทนผู้สนับสนุนการขาย เพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกทั้ง J.P. Morgan Asset Management และ Lombard Odier เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ 3) Productivity Enhancement การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้ง AI และ Robotic Process Automation (RPA) มาปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ให้แตะระดับ 2 ล้านล้านบาทภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2568-2570)

นายวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการดำเนินงานโดดเด่นในปีที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมกองทุนรวมของไทย ด้วยการครองอันดับ 1 ในด้านมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) และมีสัดส่วนกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับ 4 หรือ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์มากที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการกองทุน และความมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าที่สร้างพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) เพิ่มขึ้นจาก 48,000 ราย เป็น 100,000 ราย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนต่อ บลจ.กสิกรไทย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนรวม

บลจ.กสิกรไทย ประเมินสถานการณ์การลงทุนจากทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอน โดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกอิงจากสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงจากนโยบายรัฐบาลของทรัมป์ ส่งผลให้ตลาดกลับมาอยู่ในโหมดเฝ้าระวัง อย่างไรก็ดี Fed มีแนวโน้มดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยมองว่ามีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ในช่วงกลางปี และอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี

สำหรับเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอยู่ในกรอบ 2.4-2.7% ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ 2.5% ทั้งนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยน่าจะเข้าใกล้จุดต่ำสุดแล้ว โดยซื้อขายในระดับที่ถูกมากเมื่อเทียบกับในอดีต ด้วย Forward PER 12.93 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ย้อนหลังที่ 15.88 เท่า อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนควรติดตามมาตรการระยะสั้นที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดหุ้นไทย ส่วนทางด้านตลาดตราสารหนี้ไทย มองว่ายังมีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีนี้ ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้ไทย โดยคาดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 2.00-2.30% นายวินกล่าว

จากสภาวะตลาดทั่วโลกที่ยังมีความผันผวน ผู้ลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียว อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาดได้ โดยแนะนำให้ผู้ลงทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1: Core Portfolio เน้นลงทุนเสริมพอร์ตให้เติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยแนะนำกองทุน K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-WPULTIMATE ในสัดส่วนประมาณ 70-80% ของพอร์ต ส่วนที่ 2: Satellite Portfolio เน้นลงทุนเพื่อโอกาสทำกำไรในระยะสั้น โดยแนะนำกองทุน K-GSELECT, K-USA, K-GTECH, K-VIETNAM, K-PROPI ในสัดส่วนประมาณ 20% ของพอร์ต และส่วนที่ 3: Liquidity เน้นลงทุนเสริมสภาพคล่อง เพื่อโอกาสทำกำไรที่ได้มากกว่าเงินฝาก ในขณะเดียวกันยังสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 1-2 วันทำการ โดยแนะนำกองทุน K-SF, K-SFPLUS, K-FIXED, K-FIXEDPLUS ในสัดส่วนประมาณ 10% ของพอร์ต

นายวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย มีจำนวนผู้ลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลทั้ง K-PLUS และ K-My Funds คิดเป็นสัดส่วน 89% จากจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมด และสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ในทุกช่องทางรวมได้เป็นจำนวนกว่า 500,000 ราย (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ 31 ธ.ค. 67) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวม 1.19 ล้านล้านบาท ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2.46 แสนล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล 1.72 แสนล้านบาท โดยยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม (ที่มา: AIMC ณ 31 ธ.ค. 67)

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน



 


บทความที่เกี่ยวข้อง
ให้บ้านเป็นที่พักใจของทั้งคุณและสัตว์เลี้ยง SB Design Square เปิด Pet Lovers Corner   พื้นที่ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักสัตว์ ให้คุณได้แต่งบ้านด้วยดีไซน์ที่อบอุ่น ใช้งานได้จริงและเป็นมิตรกับเจ้าขนฟูตัวน้อย
เอสบี ดีไซน์สแควร์ ตอกย้ำแนวคิดการอยู่อาศัยที่เข้าใจทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ เปิดตัว Pet Lovers Corner พื้นที่ใหม่ล่าสุดที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างกลมกลืนของเจ้าของบ้านและสัตว์เลี้ยงแสนรัก
23 มิ.ย. 2025
เอไอเอ ประเทศไทย ครองอันดับ 1 รางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ครั้งที่ 42 (42nd TNQA ) ติดต่อกันเป็นปีที่ 18
เอไอเอ ประเทศไทย นำทัพพลังตัวแทนประกันชีวิต ร่วมพิธีมอบรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ครั้งที่ 42 (42nd Thailand National Quality Awards) ในปีนี้เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงครองอันดับ 1 รางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18
23 มิ.ย. 2025
ไบกอน ชวนตระหนักรู้สู้ยุงลาย ไปกับกิจกรรม ไบกอนร่วมใจต้านภัยไข้เลือดออก เรียนรู้วิธีป้องกันลูกหลานจากยุงลายอย่างถูกวิธี
ไบกอน แบรนด์ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงอันดับ 1 ของประเทศไทย จัดกิจกรรมให้ความรู้ในงาน ไบกอนร่วมใจต้านภัยไข้เลือดออก เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออก ผ่านกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟ ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ระหว่างวันที่ 2022 มิถุนายน 2568
23 มิ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy