แชร์

YLG ประเมินทองคำปรับฐานระยะสั้น สะสมกำลังขึ้นต่อ ระยะยาวมีหลายปัจจัยบวก จีน-สหรัฐขึ้นภาษีตอบโต้หนุนทองเพิ่ม

อัพเดทล่าสุด: 10 เม.ย. 2025
171 ผู้เข้าชม

·        วายแอลจีประเมินสถานการณ์ทองคำปรับตัวลดลงเป็นแค่ช่วงสั้น จาก 2 ปัจจัย ทั้งการเทขายทำกำไร ในภาวะ Risk-off เพื่อปิดความเสี่ยงมาถือเงินสด จากความผันผวนมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ และจากแรงขายทำกำไรในทางเทคนิค หลังจากราคาปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรก คล้ายช่วงโควิด 19 ทองคำลดลงแค่ช่วงสั้นจากนั้นพุ่งยาว

·    มองภาพรวมทั้งปีทองคำจะไปได้ไกลแค่ไหนขึ้นกับ 2 ปัจจัยหลัก หากประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีนเจรจากับสหรัฐไม่สำเร็จ หรือมีการตอบโต้จนก่อให้เกิดสงครามการค้า  และเพิ่มโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนกระตุ้นเฟดผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน  ทองคำจะมีลุ้นแตะ 3,300-3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  แต่หากเจรจาสำเร็จ ยังไปได้ที่ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

·        แนะใช้จังหวะทองคำปรับฐานเข้าซื้อเพื่อลงทุนได้ทั้ง ระยะสั้น - กลาง - ยาว เหตุมีโอกาสสูงที่ในอีก 12 เดือน จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ชี้การลงทุนทองคำในตลาดฟิวเจอร์สเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจในช่วงทองคำราคาสูง เหตุใช้เงินลงทุน 10% ของมูลค่าทองคำ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน เเอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำผันผวนหลังจากปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 3,167.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย. ขานรับการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ของสหรัฐ ที่อาจกระทบเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย 

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ทองคำได้ถูกแรงขายทำกำไร เนื่องจากทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ได้พุ่งขึ้นขานรับประเด็นดังกล่าวมาตลอดเกือบไตรมาส 1 ที่ผ่านมาแล้ว จึงเกิดการ Sell on fact ในภายหลัง จนราคาปรับตัวลดลง 210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือลดลง 6.63% สู่ระดับ 2,956.92 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันจันทร์ที่ 7 เม.ย.  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่นๆ ถือว่าทองคำยังคงยืดหยุ่นกว่าอย่างมาก และแม้ราคาจะปรับลดลงมาอย่างรวดเร็ว แต่นับจากต้นปีมาถึงราคาปิดวันที่ 9 เม.ย. ทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นถึง 460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 17.48%  

สำหรับความผันผวนของราคาทองคำในระยะสั้นนี้ มีปัจจัยหลักมาจากความกังวลต่อนโยบายการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ ที่เริ่มบานปลายจากการตอบโต้ของทางฝั่งจีน จนนำไปสู่การกประกาศตัวเลขอัตราการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นจนท้ายที่สุดจีนโดนสหรัฐเรียกเก็บภาษีมากถึงอัตรา 125%  อย่างไรก็ดี YLG ประเมินไว้ 2 แนวทาง ดังนี้

1.       หากแต่ละประเทศเข้าเจรจาผ่อนปรนภาษีแต่เจรจาไม่สำเร็จ ส่งผลให้ยกระดับความตึงเครียด และสถานการณ์ยืดเยื้อ กรณีนี้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย  หรือ  อย่างเลวร้ายจะเข้าสู่สภาวะ Stagflation  ผลกระทบต่อทองคำ  คือ  ทองคำจะปรับตัวลงในระยะแรกจากความต้องการเงินท่ามกลาง Risk-off  ก่อนจะปรับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  กรณีนี้จะหนุนทองคำได้อย่างมากในระยะถัดๆไป  โดยมีเป้าหมายทองคำที่ระดับ 3,300-3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

2.       ขณะเดียวกันหากแต่ละประเทศสามารถเจรจาและหาทางออกร่วมกันได้และลดความตึงเครียดลง กรณีนี้ สินทรัพย์เสี่ยงกลับมาปรับตัวสูงขึ้น  ซึ่งจะบั่นทอนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดีมองว่าทองคำจะกลับมาเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานเดิม  ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ยังคงหนุนทองคำ เพียงแค่ Upside อาจน้อยกว่ากรณีแรก  กรณีนี้ให้เป้าหมายทองคำไว้ที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นอกจากนี้มองว่าแรงขายทำกำไรทองคำยังมาจากราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปี จึงเกิดแรงขายทำกำไรและเป็นแรงขายเพื่อถือเงินสด  และโยกเงินเติมมาร์จิ้นและชดเชยผลขาดทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ดังนั้นคาดว่าแรงขายรอบนี้เป็นเพียงปฏิกิริยาระยะสั้นเท่านั้น  เช่นเดียวกับครั้งที่ทองคำเคยถูกเทขายลงมาพร้อมตลาดหุ้นทั่วโลกให้ช่วงการระบาดของ COVID-19  และที่สำคัญคือ ทองคำยังไม่สูญเสียสถานะของสินทรัพย์ปลอดภัยแต่อย่างใด  เพียงแต่แรงขายในตลาดทองคำส่งผลให้มุมมองเทคนิคระยะกลางเข้าสู่ช่วงของการพักฐานในระยะกลาง สะสมกำลังเพื่อปรับตัวขึ้นต่อในระยะยาว  ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานต่อทองคำยังไม่เปลี่ยนแปลง  


YLG จึงประเมินว่าการพักตัวของทองคำในระยะกลางจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาวในการกลับเข้าสะสมทองคำอีกครั้งเมื่อราคาย่อตัวลง เนื่องจากความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเกิด Recession ในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย  จะส่งผลให้เฟดต้องกลับมาผ่อนคลายนโยบายการเงิน  ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย  หรือ ยุติการทำ Quantitative Tightening (QT) ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์และหนุนราคาทองคำ และจะกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนทองคำได้อย่างมากในปี 2025  

นอกจากนี้นักลงทุนยังสมารถลงทุนทองคำในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูง เพราะใช้เงินลงทุนเพียง 10% ของราคาทองคำ และสามารถทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด โดยล่าสุดวายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures รับสิทธิ์ใช้งาน Trading View Essential Plan ที่จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า 5 ด้าน 1.กราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน รวมถึง Volume Profile 2.เครื่องมือวาดรูปและฟีเจอร์ทางเทคนิค 3.การแจ้งเตือนราคา 4.ไอเดียเทรดจากคอมมูนิตี้ 5.ไม่มีโฆษณาและอีกจำนวนมาก


บทความที่เกี่ยวข้อง
บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ มอบทุนนักเรียนยากจน
ในโอกาสพิศษ นับก้าวเข้า 10 ปี BEM ส่งสุขสู่สังคม ของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา)
30 ก.ค. 2025
มาสด้าเปิดตัว NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL จัดสรรอุปกรณ์ใหม่ เพิ่มรุ่นเริ่มต้น  ปรับไลน์อัพใหม่ ใส่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน ราคาใหม่ 899,000 บาท คุ้มค่าเกินราคา
มาสด้าเผยโฉมอีกหนึ่งยนตรกรรมภายใต้ ESSENTIAL COLLECTION ครอสโอเวอร์เอสยูวีสปอร์ตพรีเมี่ยม NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL ภายใต้แนวคิด LIVE A LIFE OF VALUE เติมเต็มชีวิตให้คุ้มค่ากับเอสยูวีที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
30 ก.ค. 2025
กกพ. ชู 34 ผลงานเด่น! ขับเคลื่อนชุมชนรอบโรงไฟฟ้าเข้มแข็งยั่งยืน ผ่านเวทีประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2567
เวทีประกวดในปีนี้จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติกองทุนพัฒนาไฟฟ้าและโครงการชุมชนที่มีผลงานโดดเด่น พร้อมมอบถ้วยรางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นเกียรติสูงสุดแก่ผู้ได้รับรางวัล
30 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy