แชร์

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.25-32.90 ทรัมป์เพิ่มความไม่แน่นอน

อัพเดทล่าสุด: 26 พ.ค. 2025
145 ผู้เข้าชม

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.90 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 32.55 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 32.54-33.29 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 7 เดือน เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญ โดยดอลลาร์หยุดสถิติการฟื้นตัว 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยิลด์)ระยะยาวของสหรัฐฯพุ่งขึ้นหลังผลประมูลอ่อนแอ่กว่าคาด และนักลงทุนระมัดระวังต่อความเสี่ยงที่รัฐบาลของทรัมป์กำลังเผชิญจากร่างกฎหมายที่ขาดความน่าเชื่อถือและจะเพิ่มหนี้สาธารณะอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 10 ปีข้างหน้า สะท้อนข้อกังขาเรื่องความเชื่อมั่นในสินทรัพย์สหรัฐฯ อนึ่ง แม้ตัวเลข PMI เดือนพ.ค.เบื้องต้นของสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด แต่เงินดอลลาร์ไม่สามารถประคองตัวได้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 4,239 ล้านบาท และ 16,493 ล้านบาท ตามลำดับ
 
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อ PCE เดือนเมษายนของสหรัฐฯ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้ารุนแรงขึ้นอีกครั้งหลังปธน.ทรัมป์เสนอให้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปในอัตรา 50% เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน แต่ทรัมป์ได้กล่าวในเวลาถัดมาว่าจะเริ่มเก็บภาษีดังกล่าววันที่ 9 กรกฎาคม ตอกย้ำการบริหารนโยบายที่ขาดความแน่นอน ในขณะเดียวกัน นักลงทุนมองถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลทรัมป์กำลังผลักดันให้ประเทศต่างๆปล่อยให้สกุลเงินของตนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และอาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อต่อรองเรื่องภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ภายในเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม นอกจากนี้ ทิศทางด้านการคลังของสหรัฐฯยังเพิ่มความเปราะบางเชิงโครงสร้างสำหรับค่าเงินดอลลาร์ โดยสำนักงานงบประมาณของรัฐสภาสหรัฐฯประเมินว่าร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายรวมสิบปี 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ หรืออาจสูงถึง 4.6 ล้านล้านดอลลาร์กรณีการลดภาษีชั่วคราวทั้งหมดกลายเป็นมาตรการถาวร
 
สำหรับปัจจัยในประเทศ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (y-o-y) ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.3-2.3% จากเดิม 2.3-3.3% และยังปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของมูลค่าส่งออกเป็น 1.8% จาก 3.5% ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามการค้า


บทความที่เกี่ยวข้อง
เคทีซีผนึกไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม กระตุ้นใช้จ่ายหมวดวัสดุก่อสร้าง  เสนอทางเลือกฟื้นฟูบ้านโดยไม่กระทบสภาพคล่อง
เคทีซีผนึกไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน เดินหน้าเชื่อมต่อคนรักบ้านกับการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า ผ่านแคมเปญ เคทีซีเคียงข้างทุกการฟื้นฟูบ้าน สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี รับสิทธิพิเศษจุใจ ครอบคลุมทั้งการซื้อสินค้าและงานบริการ
15 ก.ค. 2025
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จัดงานเสวนา The Money Code  ไขรหัสการเงินจากอดีต สู่อนาคตที่มั่นคง
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ The Money Code ถอดรหัสการเงินจากประวัติศาสตร์โลก จากยุคหินถึงโลกดิจิทัลมนุษย์ปรับตัวอย่างไรให้รอดทางการเงิน เปิดมุมมองการวางแผนทางการเงินให้กับลูกค้าคนสำคัญของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์
15 ก.ค. 2025
EXIM BANK ฉลองความสำเร็จในการออกพันธบัตรสกุลบาท มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท  ตอกย้ำบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับนายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
15 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy