แชร์

จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว 2.8% สภาพัฒน์คาดจีดีพีปี 2568 โต 1.8-2.3%

อัพเดทล่าสุด: 19 ส.ค. 2025
219 ผู้เข้าชม

Key Highlights :

·        เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2/2568 ขยายตัวที่ 2.8%YoY จากการเร่งส่งออกก่อนการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการลงทุนภาคเอกชนจากผลของฐานต่ำในปีก่อน โดยสภาพัฒน์ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ขึ้นให้อยู่ในช่วง 1.8%-2.3% (ค่ากลาง 2.0%) จากการส่งออกครึ่งปีแรกที่ขยายตัวสูง ประกอบกับความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าโลกที่คลี่คลายลงบางส่วน

·        Krungthai COMPASS ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวที่ 2.0%YoY โดยระยะข้างหน้าแรงส่งมีทิศทางชะลอลงหลังการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แม้จะลดความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่คาดว่าภาวะการแข่งขันด้านราคาจะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการ de-stocking ของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มคำสั้งซื้อในระยะต่อไป ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษี transshipment ที่ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากความไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัย

จีดีพีไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 2.8%YoY จากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวสูงต่อเนื่อง และการลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัวเป็นสำคัญ            

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2/2568 ขยายตัว 2.8%YoY และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวได้ 0.6%QoQSA โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก

·   การส่งออกสินค้าและบริการยังเป็น แรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยมีการขยายตัวสูงถึง 14.3%YoY เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 13.8%YoY โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรและอุปกรณ์ ตามการเร่งส่งออกสินค้าก่อนการประกาศอัตราภาษีนำเข้า reciprocal tariff ของสหรัฐฯ ขณะที่การท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลงที่ 2.7%YoY จากผลกระทบด้านความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักเที่ยวต่างชาติ

·   การนำเข้าสินค้าขยายตัวสูงอยู่ที่ 15.3%YoY และสูงกว่าไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 3.9% สะท้อนการเร่งนำเข้าเพื่อผลิตและส่งไปยังสหรัฐฯก่อนมาตรการภาษีมีผล อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่การนำเข้าเพื่อส่งออกดังกล่าวบางส่วนอาจมีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบจากไทยต่ำ เนื่องจากการผลิตที่แม้จะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออก แต่ขยายตัวเพียง 1.7%YoY เป็นประเด็นที่ต้องติดตามในระยะต่อไป โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ Local content และภาษี transshipment

·    การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.1%YoY โดยเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส จากการลงทุนในหมวดเครื่องจักรเครื่องมือที่ขยายตัว 5.9%YoY โดยเฉพาะในหมวดยานยนต์ แต่การลงทุนในหมวดก่อสร้างยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ -2.0%YoY

แม้เศรษฐกิจในไตรมาส 2 จะขยายตัวที่ 2.8%YoY แต่แรงส่งแผ่วลงในหลายด้าน โดย

·   การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัว -3.4%QoQSA จากการลงทุนกลุ่มเครื่องจักรเครื่องมือเป็นสำคัญ แม้ว่าไตรมาสนี้จะขยายตัวได้จากระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนภาวะการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำและมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งยังต้องติดตามความต่อเนื่องของการลงทุนในรถยนต์ที่เพิ่งจะกลับมาขยายตัวได้ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส

·   การส่งออกบริการหดตัว -2.4%QoQSA ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่หดตัว -1.5%QoQSA ตามจำนวนนักท่องเที่ยวจากเกือบทุกชาติในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจากจีน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสนี้หดตัว -12.2%YoY สะท้อนความกังวลด้านความปลอดภัยที่ขยายวงมากขึ้น แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่ม long haul ชดเชยได้บางส่วน

·   นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่ำเพียง 0.2%QoQSA โดยเฉพาะการใช้จ่ายในหมวดบริการ สะท้อนความเปราะบางของครัวเรือนที่ความเชื่อมั่นถูกกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 สศช. คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 1.6% ถึง 2.3% (ค่ากลาง 2.0%) จากปัจจัยเสี่ยง 1) ผลกระทบจากการดำเนินมาตรการภาษีศุลกากรนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าไทย 2) ความผันผวนของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกจากผลของภาษีสหรัฐฯ และ 3) การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว โดย สศช. ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 33 ล้านคน จาก 37 ล้านคนในการประเมินในเดือน พ.ค. อย่างไรก็ดี สศช. มองว่าเศรษฐกิจในปีนี้มีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) แรงสนับสนุนจากรายจ่ายภาครัฐโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุน 2) การปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชนในกลุ่มเครื่องจักรเครื่องมือ

Implication:

·        Krungthai COMPASS ประเมินว่าแม้เศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2568 จะขยายตัวดีที่ 2.8%YoY แต่ระยะข้างหน้าแรงส่งหลักของเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอลง หลังการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แม้จะลดความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่คาดว่าหลายประเทศจะเร่งระบายสินค้ามายังตลาดที่สาม ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น

·        นอกจากนี้ ผลจากการเร่งส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งปีแรกทำให้สหรัฐฯ มีสต๊อกสินค้าในระดับสูงที่อาจเพียงพอต่อความต้องการในปี 2568 โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนใน
ช่วง มี.ค.-มิ.ย. 2568 สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคำสั่งซื้อระยะข้างหน้าขึ้นอยู่กับความสามารถในการ de-stocking ของสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อาจ กลับมาเร่งขึ้นจากผลของภาษี อีกทั้งยังต้องติดตามความเสี่ยงการขึ้น sectoral tariff ในสินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาไทยส่งออกได้ดี โดยคิดเป็นกว่า 6% ของมูลค่าการส่งออกไทยไปยังสหรัฐ

·      การท่องเที่ยวมีความเสี่ยงชะลอลงมากกว่าที่คาด แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม long haul ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อคนสูงจะสามารถขยายตัวได้กว่า 17.4%YoY และทดแทนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ได้บางส่วน อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ยังคงมีสัดส่วนสำคัญคิดเป็นร้อยละ 73 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น

·             Krungthai COMPASS มองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2.0%YoY โดยครึ่งหลังของปีคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ 1.0%YoY จากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ 3.0%YoY ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษี transshipment ที่ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งเป็นความท้าทายต่อความสามารถในการปรับตัวของห่วงโซ่อุปทานไทย


บทความที่เกี่ยวข้อง
เส้นทางส้ม 100 ล้าน! เกรียงศักดิ์ เถ้าแก่ส้ม ปั้นโชกุนเบตงสายน้ำผึ้งฝาง  เซเว่นฯ ช่วยเปิดตลาดใหญ่ ส่งถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ
การเติบโตของ ส้มแพ็กพร้อมทาน ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หรือที่เรียกกันติดปากว่า ส้มเซเว่น กำลังกลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจของตลาดผลไม้ไทย เมื่อโมเดล คัดแพ็กส่ง จาก SME
15 ธ.ค. 2025
เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่จาก ก.ล.ต.  ตอกย้ำบทบาทองค์กรในการสร้างความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) คว้า 4 รางวัล จากโครงการ ตลาดทุนไทยร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2 ปี 2568 ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
15 ธ.ค. 2025
ไทยฮอนด้า ผนึกกำลังร้านผู้จำหน่าย พร้อมกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และสื่อมวลชน ร่วมส่งมอบถุงยังชีพ 8,603 ถุง มูลค่ารวม 5.16 ล้านบาท บรรเทาผลกระทบน้ำท่วมหาดใหญ่
บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และคณะสื่อมวลชน เดินหน้าส่งต่อความห่วงใยสู่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย
15 ธ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy