แชร์

ส่งออกเดือน ก.ค. 2568 ขยายตัว 11.0%YoY คาดส่งออกมีแนวโน้มแผ่วลง จากการ de-stocking ท่ามกลางแรงกดดันของ Sectoral Tariff และความเสี่ยง Transshipment เพิ่มเติมระยะข้างหน้า

อัพเดทล่าสุด: 28 ส.ค. 2025
135 ผู้เข้าชม

Key Highlights :

มูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. เติบโต 11.0%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 15.5%YoY โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ที่เติบโตดี ขณะที่การส่งออกไปตลาดหลักต่างขยายตัว ด้านการนำเข้าชะลอจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 5.1%YoY ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล +322.1 ล้านดอลลาร์ฯ

Krungthai COMPASS มองว่าแม้การส่งออกจะได้อานิสงค์จากการ Front-loading ช่วงที่ผ่านมา แต่ตัวเลขการส่งออกล่าสุดในเดือน ก.ค. ที่หดตัว 0.24%MoM ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ถึงแรงส่งที่อ่อนแอลงและจะทยอยชัดขึ้นระยะข้างหน้า ทั้งการเก็บ Sectoral Tariff ในสินค้าบางกลุ่มเพิ่มเติม แนวทางการจัดเก็บ Transshipment Tariff ที่ยังไม่ชัด การ de-stocking สินค้าที่เคยเร่งนำเข้า รวมถึงการแย่งตลาดส่งออกใหม่ทดแทนสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนกดดันการส่งออกของไทยในระยะถัดไป

มูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. 2568 ขยายตัว 11.0%YoY

มูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. อยู่ที่ 28,580.7 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 11.0%YoY ชะลอตัวจาก 15.5%YoY ในเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกทองคำในเดือนนี้กลับมาหดตัว 14.7%YoY หลังจากเติบโตต่อเนื่องมา 9 เดือน ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัว 12.3%YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 14.0%YoY ชะลอลงจาก 17.6%YoY ในเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+61.0%) แผงวงจรไฟฟ้า (+54.9%) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (+44.1%) ผลิตภัณฑ์ยาง (+9.7%) ผลิตภัณฑ์พลาสติก (+28.8%) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+2.3%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (-44.0%) และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ (-17.7%) เป็นต้น

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 10.9%YoYชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 13.5%YoY โดยสินค้าเกษตรขยายตัว 21.5%YoY ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 0.2%YoY สวนทางจากเดือนก่อนที่ขยายตัว  17.4%YoY โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (+107.7%) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ (+21.8%) และผลไม้กระป๋อง และแปรรูป (+12.9%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัวในเดือนนี้ ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (-28.5%) ยางพารา (-19.9%) ข้าว (-16.3%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-12.6%) และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-3.4%) เป็นต้น

การส่งออกรายตลาดสำคัญ ส่วนใหญ่ยังขยายตัวจากการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ
 
สหรัฐฯ: ขยายตัว 31.4%YoYเติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบเครื่องจักรกล และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และไดโอด และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น

จีน: ขยายตัว 23.1%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ด้านสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ยางพารา ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น

ญี่ปุ่น: ขยายตัว 7.1%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง เม็ดพลาสติก เป็นต้น

EU27: ขยายตัว 6.6%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

ASEAN-5: ขยายตัว 5.6%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ  เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น

มูลค่าการนำเข้าเดือน ก.ค. อยู่ที่ 28,258.6 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 5.1%YoYชะลอตัวจาก 13.1%YoY เมื่อเดือนก่อน การนำเข้าสินค้าหลายหมวดยังขยายตัว ทั้งสินค้าทุน (+23.3%YoY) สินค้ายานพาหนะฯ (+2.1%YoY)สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (+11.3%YoY) สินค้าอุปโภคบริโภค (+5.5%YoY) ขณะที่การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงหดตัว (-35.5%YoY) ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน ก.ค. เกินดุล +322.1 ล้านดอลลาร์ฯ

Implication:

Krungthai COMPASS มองว่าแม้การส่งออกจะได้รับอานิสงค์จากการ Front-loading ช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบรายเดือนแล้ว มูลค่าการส่งออกล่าสุดเดือน ก.ค. หดตัว 0.24%MoM ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนแรงส่งที่อ่อนแอลง และคาดว่าจะทยอยชัดเจนขึ้นระยะข้างหน้า แม้การส่งออกช่วง 7 เดือนแรกจะโตเฉลี่ย 14.4%YoY แต่เริ่มมีสัญญาณแผ่วลง หากพิจารณารายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญบางรายการชะลอลง อาทิ อลูมิเนียม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกจัดเก็บ Sectoral Tariff ขณะที่กลุ่มสินค้าซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรตอบโต้อัตราใหม่ (เริ่ม 7 ส.ค.) บางตัว อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง และเคมีภัณฑ์ ต่างอยู่ในทิศทางที่ทรงตัว ในเชิงตลาด การส่งออกไทยไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐฯและจีนในเดือน ก.ค. หดตัวลง 0.3%MoM และ 2.2%MoM ตามลำดับ โดยกลับมาติดลบพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน บ่งชี้ถึงผลเชิงลบของสงครามการค้ารอบใหม่ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้นโมเมนตัมการส่งออกที่อ่อนแรงยังสะท้อนจากยอดส่งออกของตลาดสำคัญอื่นๆ อาทิ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่แผ่วลง โดยเฉพาะมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดฮ่องกงและเกาหลีใต้ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวลง

จับตาความเสี่ยงหลายด้านที่จะเข้ามากดดันการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี ทั้งการเก็บ Sectoral Tariff ในสินค้าบางกลุ่มเพิ่มเติม อาทิ เซมิคอนดักเตอร์1  แนวทางการจัดเก็บ Transshipment Tariff ที่ยังไม่ชัดเจน การ de-stocking ของผู้ประกอบการที่เคยเร่งนำเข้าเอาไว้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อคำสั่งซื้อที่ลดลงระยะข้างหน้า ทิศทางการส่งออกของจีนหลังจากข้อตกลงเลื่อนการจัดเก็บภาษีกับสหรัฐฯ ครบกำหนดในเดือน พ.ย. 68 โดยอาจส่งผลให้การแย่งตลาดส่งออกใหม่ทดแทนสหรัฐฯ รุนแรงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคที่เพิ่มแรงกดดันต่อการส่งออกของไทยในระยะถัดไป

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
 การผ่าตัดปอดแผลเล็ก : ก้าวใหม่ของการรักษาโรคปอ การผ่าตัดปอดแผลเล็ก : ก้าวใหม่ของการรักษาโรคปอด
การผ่าตัดปอดถือเป็นหนึ่งในการผ่าตัดใหญ่ของร่างกาย เพราะเกี่ยวข้องกับการเปิดช่องอก ซึ่งในอดีตต้องใช้วิธี “เปิดแผลกว้าง” ยาวหลายเซนติเมตร เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและทำการผ่าตัดได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม
2 ก.ย. 2025
พิณนารา รุกตลาด ปักหมุดล่าสุด กูร์เมต์ มาร์เก็ต สยามพารากอน
นายปณต โชควัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารา ทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “พิณนารา”
2 ก.ย. 2025
ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศแกนหลักยังสะท้อนภาพที่อ่อนแอ หนุนธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายต่อเนื่อง ด้านจีนต้องรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอต่อเนื่อง หนุนโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 97.4 ในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2566-67 ที่ 105 ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ 1.95 ล้านราย
2 ก.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy