แชร์

ทีทีบี ฟินทิป ชวนรู้จัก บัตรเดบิตกับ บัตรเอทีเอ็ม ต่างกันอย่างไร?

อัพเดทล่าสุด: 11 ก.ย. 2025
118 ผู้เข้าชม

ในยุคสังคมไร้เงินสด ผู้คนต่างพากันใช้บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต เพื่อความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม ทั้งการเบิกเงินสดหรือการโอนเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็น เพื่อใช้แทนการพกเงินสดจำนวนมาก แต่การมีบัตรหลายประเภทก็ทำให้หลายคนเกิดความสับสนว่า บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร หรือบัตรเดบิตกับบัตรเครดิต ต่างกันอย่างไร?  วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จึงชวนมาทำความรู้จักให้ชัด ว่าแต่ละบัตรมีการใช้งานอย่างไรให้ถูกประเภทและคุ้มค่า

ทำความรู้จักแต่ละบัตรให้ชัดเจนว่าใช้งานอย่างไร?

1.      บัตรเอทีเอ็ม : ออกโดยธนาคาร ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ได้แก่ เบิกเงินสด โอนเงิน และเช็กยอดเงิน ข้อดีคือ สะดวกและรวดเร็ว แต่รูดซื้อสินค้าไม่ได้ ซึ่งบัตรมีวันหมดอายุตามที่ระบุไว้หน้าบัตร โดยผู้ถือบัตรต้องไปทำการเปลี่ยนบัตรใหม่ที่ธนาคาร ส่วนวิธีใช้งานบัตรเอทีเอ็ม มีดังนี้

·        เบิกเงินสด : นำบัตรเอทีเอ็มไปสอดเข้าตู้เอทีเอ็ม แล้วป้อนรหัสผ่าน เพื่อเบิกเงินสดตามที่ต้องการ

·        ตรวจสอบยอดเงิน : สามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีผ่านตู้เอทีเอ็มได้

2.      บัตรเดบิต : บัตรเอทีเอ็มกับบัตรเดบิตเหมือนกันไหม? หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าบัตรเดบิตคือบัตรเอทีเอ็ม แต่จริง ๆ แล้วบัตรเดบิตไม่ใช่บัตรเอทีเอ็มเสียทีเดียว โดยบัตรเดบิตเป็นบัตรที่เชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากของเรา เมื่อเราใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต เงินจะถูกหักออกจากบัญชีทันที ข้อดีคือสะดวก เบิกเงินได้ สามารถใช้จ่ายผ่านหลากหลายช่องทาง ส่วนข้อจำกัดคือสามารถใช้จ่ายได้เท่ากับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น ซึ่งวิธีใช้เป็นดังนี้

·        รูดซื้อสินค้า : สามารถนำบัตรเดบิตไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการได้ตามปกติ

·        เบิกเงินสด : นำบัตรเดบิตไปเบิกเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้

·        ชำระค่าบริการ : ใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้

3.   บัตรเครดิต : เป็นบัตรที่ธนาคารให้เรานำเงินอนาคตออกมาใช้ก่อน แล้วค่อยชำระคืนในภายหลัง ซึ่งสะดวกในการใช้จ่าย และผ่อนชำระได้ อีกทั้งมีโปรโมชันมากมาย แต่ต้องชำระค่าใช้จ่ายคืนตามกำหนด หากชำระไม่ตรงเวลาจะมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น มีวิธีใช้งานดังนี้

·        รูดซื้อสินค้า : สามารถนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการได้

·        ผ่อนชำระสินค้า : มีร้านค้ามากมายที่สามารถใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระสินค้า ดอกเบี้ย 0%

·        เบิกเงินสด : สามารถเบิกเงินสดได้ แต่ต้องระวังเรื่องค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม  

สรุปให้แล้วแต่ละบัตรต่างกันอย่างไร? และเหมาะกับใคร!

แม้ว่าจะรู้จักรายละเอียดของแต่ละบัตรกันอย่างดีแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังสับสนว่าบัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร และบัตรเครดิตกับบัตรเอทีเอ็มเหมือนกันไหม? โดยสรุปพบว่าต่างกัน ดังนี้

การใช้งาน

·    บัตรเครดิต : ใช้ซื้อสินค้าและบริการทั้งในร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ โดยการใช้วงเงินจากธนาคาร แล้วค่อยชำระคืนในภายหลัง

·        บัตรเดบิต : ใช้ซื้อสินค้าและบริการ หรือถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม โดยจะถูกหักเงินจากบัญชีเงินฝากทันที อีกทั้งปัจจุบันยังมีวิธีการใช้บัตรเดบิตออนไลน์ที่ทำให้เราสะดวกมากยิ่งขึ้น

·        บัตรเอทีเอ็ม : ใช้ถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม และตรวจสอบยอดเงินในบัญชี

การชำระเงิน

·        บัตรเครดิต : ชำระเงินคืนตามรอบบิลที่กำหนด ซึ่งอาจมีการผ่อนชำระตามความสะดวก

·        บัตรเดบิต : ไม่มีการผ่อนชำระ เนื่องจากเป็นการใช้เงินที่มีในบัญชีเพียงเท่านั้น

·        บัตรเอทีเอ็ม : ไม่สามารถใช้ในการชำระสินค้าและบริการได้

การคิดดอกเบี้ย

·        บัตรเครดิต : หากไม่ชำระเต็มจำนวนในช่วงเวลาที่กำหนด จะมีการคิดดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารกำหนด

·        บัตรเดบิต : ไม่มีการคิดดอกเบี้ย เนื่องจากการใช้เงินที่มีในบัญชีเพียงเท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในความต่างของบัตรเดบิตและบัตรเครดิต

·        บัตรเอทีเอ็ม : ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเนื่องจากเป็นการใช้เงินที่มีในบัญชีเพื่อการถอนเงินเท่านั้น

สิทธิประโยชน์

·        บัตรเครดิต : มักมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น คะแนนสะสม ส่วนลดพิเศษ และประกันการเดินทาง

·        บัตรเดบิต : รูดใช้จ่ายได้เช่นกัน และในปัจจุบันสิทธิประโยชน์เทียบเท่ากับบัตรเครดิตแล้ว

·        บัตรเอทีเอ็ม : ไม่มีสิทธิประโยชน์พิเศษ และไม่สามารถใช้ซื้อของหรือการทำธุรกรรมออนไลน์

เอกสารที่ต้องใช้สมัครบัตรต่าง ๆ มีอะไรบ้าง

การสมัครบัตรต่าง ๆ ต้องใช้เอกสารประกอบ เพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัคร ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครบัตรแต่ละประเภทอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับธนาคารและประเภทของบัตรที่ต้องการสมัคร ไปดูกันว่าเอกสารที่ใช้แตกต่างกันอย่างไร

1.      บัตรเครดิต : ใช้เอกสารที่เยอะมากกว่าบัตรอื่น เพื่อตรวจสอบประวัติทางการเงินและยืนยันตัวตน โดยบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจะมี Card Verification Value หรือ CVC เป็นรหัสความปลอดภัยปรากฏอยู่ เพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งเอกสารที่ใช้มีดังนี้ บัตรประชาชน สลิปเงินเดือนอย่างน้อย 3 เดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน และเอกสารยืนยันรายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จากการเช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุน

2.      บัตรเดบิต : ใช้หลักฐานเป็นเงินที่มีอยู่ในบัญชีโดยตรง โดยชื่อของผู้สมัครมักจะอยู่ด้านหน้าของบัตร เหนือหมายเลขบัตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชื่อที่ใช้ในการเปิดบัญชีธนาคาร เอกสารที่ใช้คือ บัตรประชาชน และสมุดบัญชีธนาคาร

3.   บัตรเอทีเอ็ม : ขั้นตอนการสมัครจะเน้นที่การเข้าถึงบัญชีเงินฝาก เพื่อถอนเงินหรือทำธุรกรรมอื่น ๆ เอกสารจะใช้เพียงบัตรประชาชน และสมุดบัญชีธนาคาร

บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มแบบไหนที่ใช่สำหรับลูกค้าธนาคาร

บัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มแม้จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่รายละเอียดการใช้งานจะต่างกัน หากต้องการบัตรที่ใช้สำหรับกดเงินสดเป็นหลัก เลือกใช้บัตรเอทีเอ็มก็เพียงพอแล้ว และหากต้องการบัตรที่ใช้จ่ายได้หลากหลายและควบคุมการเงินได้ดี บัตรเดบิตเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะสมัครบัตรกับธนาคารไหนดี บัตรเดบิต ttb all free เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียมทุกการกด โอน จ่าย เติม ทุกตู้เอทีเอ็ม สามารถใช้จ่ายได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลาทั่วโลก และมีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็น

·           ใช้จ่ายต่างประเทศ ฟรี FX Rate 2.5% ใช้จ่ายได้ทุกสกุลเงิน ทั่วโลก

·           ส่วนลดสูงสุด 20% จากร้านอาหาร และจองที่พักชั้นนำทั่วประเทศ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)

·           ฟรี DCC 1% ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงสกุลเงินไทย

มาถึงตรงนี้คงทราบถึงประโยชน์ของแต่ละบัตรกันอย่างละเอียดแล้ว ทีนี้ก็สามารถเลือกใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และเลือกใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะสายกด สายรูด หรือสายช้อปออนไลน์ เพื่อให้มีชีวิตทางการเงินสะดวก สบายและคุ้มค่ากับทุกการใช้จ่าย

คลิกเพื่ออ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/fin-tips/detail/deposits-debit-vs-atm-card หรือ ติดตามเคล็ดลับการเงินอื่น ๆ  จาก fintips by ttb เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ คลิก https://www.ttbbank.com/link/fintips-pr


บทความที่เกี่ยวข้อง
หนึ่งเดียวของธุรกิจประกันภัย “ฟอลคอนประกันภัย” คว้ารางวัล “CSR Award 2025” จาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) สร้างความภาคภูมิใจอีกครั้ง ด้วยการเป็นหนึ่งเดียวของธุรกิจประกันภัย ที่ได้รับรางวัล องค์กรที่มีผลงานการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจดีเด่นในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2568
12 ก.ย. 2025
ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เยี่ยมชมไร่สุขพ่วง และให้กำลังใจพนักงาน ธ.ก.ส. จ.ราชบุรี
วันนี้ (12 กันยายน 2568) นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมงานเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรมยั่งยืน ไร่สุขพ่วง ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัด ราชบุรี
12 ก.ย. 2025
บอร์ดดุสิตธานีแต่งตั้ง ชนินทธ์ โทณวณิก ควบกรุ๊ปซีอีโอ  หลัง ศุภจี สุธรรมพันธุ์ตอบรับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
กรุงเทพฯ 12 กันยายน 2568 : คณะกรรมการดุสิตธานี มีมติแต่งตั้ง ชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ)
12 ก.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy