แชร์

ยูโอบี ประเทศไทย เสริมแกร่ง SMEs ไทยด้วย AI กับโครงการ UOB AI Ready จากแนวคิดสู่การใช้งานจริง หนุนธุรกิจเติบโตในยุคดิจิทัล

อัพเดทล่าสุด: 7 ต.ค. 2025
139 ผู้เข้าชม

ในยุคที่ AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัว ข้อมูลจาก depa ระบุว่าร้อยละ 70 ของ SMEs ได้เริ่มเปลี่ยนผ่านจากการทำงานแบบ Manual สู่การใช้ระบบดิจิทัลเบื้องต้น สะท้อนถึงความพร้อมในการก้าวสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ

ด้วยความเชื่อว่า AI ไม่ควรเป็นเรื่องขององค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จึงเปิดตัวโครงการ UOB AI Ready ดำเนินงานโดย  UOB FinLab เพื่อให้ SMEs ได้เรียนรู้ เข้าใจ และประเมินความพร้อมในการนำ AI ไปใช้ในธุรกิจอย่างเป็นระบบ โดยไม่เพียงให้ความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ยังมอบเครื่องมือประเมินความพร้อมองค์กรผ่าน AI Readiness Index Survey ที่ครอบคลุมด้านกลยุทธ์ ข้อมูล บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการนำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายบัลลังก์ ว่องธวัชชัย Head of Digital Engagement & Ecosystem Partnerships ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า AI คือกุญแจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของ SMEs ทั้งด้านการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ ซึ่งสามารถสร้างผลลัพธ์เฉลี่ยได้ถึงร้อยละ 2030 โครงการนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเปลี่ยนจาก ความสนใจ สู่ การลงมือทำ

พันธมิตรภาครัฐและเอกชน ร่วมสร้างระบบนิเวศ AI เพื่อ SMEs

โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), Microsoft (Thailand), ZWIZ.AI และ CERO โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการนำ AI มาใช้ในธุรกิจอย่างยั่งยืน

นายวสุพล ธารกกาญจน์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า AI มีบทบาทสำคัญใน 5 มิติหลัก ได้แก่ 1.เพิ่มความสามารถให้พนักงานสำหรับการทำงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การตอบคำถามลูกค้าและการจัดการข้อมูล 2.ลดต้นทุนช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาด้วยระบบที่ทำงานได้ต่อเนื่องรวดเร็ว 3.สร้างข้อมูลเชิงลึก วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและแนวโน้มตลาดเพื่อปรับกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ 4.เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สร้างความแตกต่างด้วยการตลาดเฉพาะบุคคลและประสบการณ์ลูกค้าที่ตอบโจทย์ และ 5.เสริมประสิทธิภาพการทำงาน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีเวลาโฟกัสกับการวางกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ

ภาครัฐเองก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการนำ AI มาใช่ในธุรกิจอย่างยั่งยืนโดย ดร.ปรีสาร รักวาทิน รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ depa สนับสนุนสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและการเข้าถึงบริการดิจิทัล กล่าวว่า depa มุ่งสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครบวงจร ทั้งการสนับสนุนสตาร์ทอัพ การผลักดันผู้ให้บริการเทคโนโลยีเข้าสู่บัญชีบริการดิจิทัล และการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกระดับเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ เช่น มาตรการภาษี 200% และสิทธิยกเว้นภาษีตามมาตรการ BOI ความร่วมมือภายใต้โครงการ UOB AI Ready จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ SMEs และธุรกิจขนาดใหญ่สามารถนำ AI มาใช้ได้จริง และแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน ดร.นันทิยา วิริยบัณฑร ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช. เสริมว่า ITAP ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs โดยการเชื่อมโยงหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาให้คำปรึกษาเชิงลึก พร้อมสนับสนุนงบประมาณสูงสุดถึงร้อยละ 50 เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงให้ SMEs ทำให้ผู้ประกอบการกล้าที่จะนำ AI หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาทดลองใช้ในธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การเข้ามามีส่วนร่วมของ ITAP ในโครงการนี้จึงเป็นการต่อยอดทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของ สวทช. เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงเทคโนโลยีและสิทธิประโยชน์จากภาครัฐได้อย่างครบวงจร

เสียงจากผู้ประกอบการ: เริ่มต้นเรียนรู้ ใช้ AI สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ

ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการหลังต่างมองเห็นโอกาสใหม่ในการนำ AI ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในหลากหลายมิติ อาทิ

·       นางสาววรางคณา จรรยารุ่งโรจน์ กรรมการบริหารบริษัท เลค คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้แทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมมือถือ Gadget หลากหลายแบรนด์ สนใจใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและบริหารสต็อกสินค้าได้แม่นยำมากขึ้น

·       นางสาวศริตา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการบริหารบริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งสินค้าเฟอร์นิเจอร์ทุกประเภทรวมทั้งอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสวน มองว่า Chatbot จะช่วยให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้รวดเร็วและ AI ด้าน HR จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ  

·       นางสาวพิชชากร ชวรางกูร กรรมการบริหาร บริษัท ชีต้า คอนกรีต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จและผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง จังหวัดเชียงราย เห็นโอกาสในการใช้ AI วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และปรับปรุงกระบวนการผลิตและการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

·       นางสาวชนาพร ไชศักดิ์ภากาศ กรรมการบริหาร บริษัท ที.ซี.เอส. แป้งมันอุตสาหกรรม จำกัด วางแผนใช้ AI ควบคุมคุณภาพการผลิตและวิเคราะห์ตลาดสินค้าเกษตร เพื่อนำไปสู่การวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไทยให้ก้าวทันมาตรฐานสากล


บทความที่เกี่ยวข้อง
BAM สนับสนุนโรงเรียนบ้านเนินทองราษฎร์พัฒนา จ.พิษณุโลก  จัดทำโครงการโรงเรียนต้นคิด ชีวิตยั่งยืน เพื่ออาหารกลางวัน ปีที่ 4
าที่ร้อยตรี ภูวไนย จารุพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ภาคเหนือตอนล่าง นายดนัย ด้วงเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร นายสิงห์ สุขโท้  ผู้จัดการสำนักงานพิษณุโลก  นายวรา สวัสดีผล  ผู้จัดการสำนักงานนครสวรรค์ นางสาวชฎาภรณ์ วงศ์ชีวะ ผู้จัดการกลุ่มประชาสัมพันธ์ พร้อมพนักงาน
7 ต.ค. 2025
เลขาธิการ คปภ. Kick Off นโยบาย OIC ESG Empower ขับเคลื่อนสู่พนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ  ร่วมสร้างองค์กรแห่งความยั่งยืนด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) จัดกิจกรรม Town Hall OIC ESG Empower โดยมีนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานในพิธีเปิดและแถลงนโยบายสำคัญ
7 ต.ค. 2025
เตรียมเสียงกรี๊ดให้พร้อม!! ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล  ชวนกระทบไหล่ศิลปิน-ดาราชื่อดัง พร้อมช้อปสุดคุ้มกับบิวตี้ไอเทมแบรนด์ดัง  ในงาน TOPS of Beauty
ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จัดงาน TOPS of Beauty ชวนขาช้อปและสายบิวตี้มาช้อปสุดคุ้มกับหลากหลายสินค้าบิวตี้ไอเทมแบรนด์ดัง พร้อมเสิร์ฟความ ฟินกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่าศิลปิน ดารา
7 ต.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy