แชร์

บลจ.กสิกรไทย จัดใหญ่ Know The Markets Summit 2025 ชวน J.P. Morgan Asset Management แนะพอร์ตที่ใช่ สู่รีไทร์เมนท์โซลูชั่น

อัพเดทล่าสุด: 7 ต.ค. 2025
157 ผู้เข้าชม

บลจ.กสิกรไทย จัดงานสัมมนาการลงทุนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Know The Markets Summit 2025: Core Stability Amidst Market Volatility ชวนพันธมิตรระดับโลก J.P. Morgan Asset Management มาร่วมถ่ายทอดมุมมองเศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนปี 2026 เชื่อการจัดพอร์ตแบบ Core-Satellite Portfolio ช่วยสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เดินเกมต่อยอดสู่ Retirement Solutions มุ่งเป็นผู้นำด้านกองทุนผสมทั้งกองทุนรวมและกองทุนเพื่อการเกษียณ

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก J.P. Morgan Asset Management จัดงานสัมมนาการลงทุนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Know The Markets Summit 2025: Core Stability Amidst Market Volatility โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Ayaz Ebrahim CEO for Singapore and Southeast Asia, J.P. Morgan Asset Management (ที่ 7 จากซ้าย) และนายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย (ที่ 7 จากขวา) นำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากทั้ง 2 บริษัท มาร่วมถ่ายทอดมุมมองเศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนสำหรับปี 2026 เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนไทยในการเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

บลจ.กสิกรไทย และ J.P. Morgan Asset Management ยังคงเดินหน้าความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการยกระดับการจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก โดยอาศัยองค์ความรู้จากทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกผ่านมุมมองการลงทุนเชิงลึก Know The Markets ผสานกับบทวิจัย KAsset Capital Market Assumptions (KCMA) ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานร่วมกันของทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 คน จาก 4 ทีมบริหารการลงทุนหลักจากทั้ง 2 บริษัท  รวมถึงการนำเสนอกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ติดอันดับ 1st Quartile ในกลุ่ม Conservative, Moderate และ Aggressive Allocation อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับ 4-5 ดาวจาก Morningstar (ที่มา: Morningstar ณ กันยายน 2568)

นายวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Multi-Asset 2.0 ซึ่งเป็นแนวทางการกระจายการลงทุนที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนภายใต้บริบทของความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก โดยเน้นการใช้ข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจลงทุนภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และการปรับพอร์ตตามสภาวะตลาดที่เน้นการจัดสรรสินทรัพย์อย่างยืดหยุ่นและหลากหลาย ทั้งในด้านภูมิภาค อุตสาหกรรม และประเภทสินทรัพย์ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก และเงินสด รวมถึงล่าสุดได้เพิ่มสินทรัพย์นอกตลาด (Private Asset) เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตให้กับพอร์ตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

บลจ.กสิกรไทย ยังคงแนะนำการจัดพอร์ตลงทุนแบบ Core-Satellite Portfolio เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงและโอกาสในการสร้างผลตอบแทน โดยเน้นสัดส่วน Core 80% และ Satellite 20% สำหรับ Core Portfolio ประกอบด้วยกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series ได้แก่ K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP และ K-WPULTIMATE ที่ผสมผสานสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก K-GDBOND และกองทุนหุ้นทั่วโลก K-GSELECT และ K-GPIN เพื่อเสริมความมั่นคง ในขณะที่ Satellite Portfolio เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้เลือกลงทุนตามธีมที่น่าสนใจ ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุน K-PROPI, K-INDIA, K-CHINA, K-GPEQ-UI และ K-GPC-UI เพื่อกระจายความเสี่ยงอย่างรอบด้าน นายวินกล่าว

นายวินกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทย ได้นำแนวคิด Core Portfolio ไปต่อยอดการบริหาร Retirement Solutions ให้กับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทำให้สมาชิกกองทุนสามารถเลือกแผน K-WealthPLUS Series ที่เหมาะกับทุกช่วงวัยทำงาน และสามารถเลือกแผน Life Path ที่ยกภาระให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของ K-Asset ดำเนินการปรับพอร์ตให้แบบอัตโนมัติ โดยจะทยอยลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงเมื่อสมาชิกอายุมากขึ้น แม้จะเริ่มได้ไม่นาน แต่แนวคิด Core Port ก็ได้รับการตอบรับดีมาก โดยมีนายจ้างมากกว่า 300 ราย เลือก K-WealthPLUS Series เป็นหนึ่งในแผนการลงทุน ส่งผลให้มี AUM มากกว่า 1,300 ล้านบาท นอกจากนี้ มีนายจ้างมากกว่า 70 รายที่เลือก Life Path เป็นหนึ่งในแผนการลงทุนเพื่อเกษียณให้กับสมาชิกด้วย (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ กันยายน 2568)

สำหรับมุมมองการลงทุนจากงานสัมมนาในครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปี 2025 แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเริ่มชะลอตัว โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงและมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของกำไรต่อหุ้น โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำอย่าง Nvidia และ Apple ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การเริ่มต้นวัฏจักรลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ส่งผลเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงกระจุกตัวในกลุ่มเทคโนโลยี จึงมีความจำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ รวมถึงพิจารณาตลาดหุ้นในเอเชียที่ยังมีศักยภาพเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีในอินเดียและไต้หวัน

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน


บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดกิจกรรม “เส้นทางสร้างงานศิลปะบนอัญมณี ของดีเมืองจันท์” ดึงช่างฝีมือรุ่นใหม่โชว์ทักษะ ในงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2025
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรม “เส้นทางสร้างงานศิลปะบนอัญมณี ของดีเมืองจันท์”
7 ธ.ค. 2025
เพลงชาติไทยกระหึ่ม! “แสตมป์” เข้าวิน โฮมเรซ “ตี-ไอเดีย-อุ้ม” พาเหรดกวาดโพเดียม Asia Road Racing
ศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของเอเชียดวลกันสุดมันส์ นักบิดไทยพาเหรดสร้างผลงานสุดกระหึ่มโฮมเรซ โดย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์
7 ธ.ค. 2025
SPIRIT 4x4 ชวนขับรถบังคับจิ๋วในสนามจำลอง และลองนั่งรถลุยทางวิบาก ในงาน MOTOR EXPO 2025
โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ (Spirit of The 4×4 Driving School) จัดกิจกรรมในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” นำทีมครูฝึกมากประสบการณ์
7 ธ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy