ชาบูชิ เดินหน้ากลยุทธ์ เซกเมนเทชั่น มาร์เก็ตติ้ง เต็มสูบ !!! พร้อมมอบบริการที่ตอบโจทย์ ตรงใจ และเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากกว่าเดิม

ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ชาบูชิ (Shabushi) เดินหน้าพัฒนาและยกระดับคุณภาพทั้งในด้านสินค้า บริการ และประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Good Taste Great Time Never End หรือ รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่ม ทางเลือก ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าและทุกโอกาสการบริโภค
กลยุทธ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้ในปีนี้ หนึ่งในนั้นคือ Segmentation Marketing หรือกลยุทธ์การตลาดแบบแยกกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ซึ่งมุ่งทำความเข้าใจความแตกต่างด้านพฤติกรรมและทำเล (Location-Based Behavior) ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เพื่อออกแบบประสบการณ์ที่เหมาะสมและตรงใจ โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่ สาขาใน ห้างสรรพสินค้า (Department Store) และสาขาใน ไฮเปอร์มาร์เก็ต (Hypermarket) ซึ่งแต่ละเซกเมนต์ได้รับการพัฒนาให้มีจุดขายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ชาบูชิ สาขาใน ห้างสรรพสินค้า = Lifestyle & Experience
สำหรับสาขาในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์เชิงไลฟ์สไตล์ ชาบูชิ ได้พัฒนาและเปิดตัว ร้านดีไซน์ใหม่ เพื่อยกระดับประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นในมิติที่เหนือกว่าทั้งด้านอาหาร บริการ และบรรยากาศ โดยชูจุดเด่นสำคัญอย่าง Sushi-Master Station ครัวเปิดที่ให้ลูกค้าได้ชมทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ซูชิอย่างสดใหม่...คำต่อคำ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ไปจนถึงการจัดเสิร์ฟอย่างประณีต ซึ่งช่วยสร้างทั้งความมั่นใจในคุณภาพและความประทับใจในทุกมื้ออาหาร
ในด้านบริการ ชาบูชิ ยังคงนำเสนอทางเลือกบุฟเฟต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มอย่างครอบคลุม โดยมี 3 ระดับ ได้แก่ Regular Buffet (สุขอิ่ม) 399 บาท+/ท่าน, Premium Buffet (สุขคุ้ม) 499 บาท+/ท่าน, และ Platinum Buffet (สุขล้น) 599 บาท+/ท่าน ซึ่งแต่ละคอร์สออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า ทั้งในด้านความหลากหลาย คุณภาพ และความคุ้มค่า
ปัจจุบัน ร้านดีไซน์ใหม่เปิดให้บริการแล้วในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น G ซึ่งเป็นสาขานำร่อง, เซ็นทรัล ขอนแก่น, มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน, เกตเวย์ เอกมัย, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล นครศรีธรรมราช, จังซีลอน ภูเก็ต และเร็ว ๆ นี้ ที่ เซ็นทรัล กระบี่ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการขยายการปรับโฉมร้านดีไซน์ใหม่ในสาขาหลักทั่วประเทศ โดยเน้นศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อสร้างภาพจำแบรนด์ใหม่ให้ชัดเจนและทันสมัยในระดับประเทศ
ชาบูชิ สาขาใน ไฮเปอร์มาร์เก็ต = Value & Convenience
ขณะที่สาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ ความคุ้มค่า และ ความสะดวกสบาย ชาบูชิ ได้ออกแบบกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในด้านราคาและความยืดหยุ่นในการเลือกบริโภค โดยเปิดตัวบุฟเฟต์ใหม่ ซูเปอร์คุ้ม 259 บาท+ (บุฟเฟต์หมูหมู) ฟินคุ้มเมนูชาบู ชาบู เนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น และผักสด อิ่มครบเมนูอาหารรับประทานเล่น พร้อมผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่ม รวมแล้วกว่า 50 เมนู มาพร้อมทางเลือกอัปเกรด คุ้มพลัส 39 บาท+ เพียงจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อยก็สามารถเพิ่มความอร่อยด้วย 9 เมนูสุดฮิต ทั้งกุ้งสด เนื้อฮารามิ เนื้อสไลซ์ และซีฟู้ดหลากชนิด เพื่อให้ลูกค้าเลือกความคุ้มค่าตามงบประมาณและรสนิยมได้อย่างอิสระ
ขณะเดียวกัน ชาบูชิ ยังคงให้บริการบุฟเฟต์ สุขอิ่ม 399 บาท+ สำหรับลูกค้าประจำที่ต้องการประสบการณ์เต็มรูปแบบ ทั้งชาบู ชาบู ซูชิ และเมนูอาหารรับประทานเล่น เช่น กุ้งเทมปุระ ตลอดจนผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่ม รวมกว่า 70 รายการ
พร้อมให้บริการแล้วกว่า 72 สาขาทั่วประเทศ ที่ ชาบูชิ สาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ต ครอบคลุมทำเลหลัก เช่น บิ๊กซี, โลตัส, และคอมมูนิตี้มอลล์ต่าง ๆ (ดูสาขาที่ร่วมรายการ คลิก https://oishifood.com/page/shabushi-buffet259) ตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2568 31 ธันวาคม 2568 เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างความคึกคักให้ตลาดร้านอาหารช่วงปลายปี
ทั้งหมดนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของ ชาบูชิ ในการทำความเข้าใจลูกค้าแบบ Insight-Driven และปรับกลยุทธ์เชิงพื้นที่ เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง ประสบการณ์ที่เหนือกว่า และ คุณค่าที่จับต้องได้ โดยมุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความคุ้มค่า ควบคุมงบประมาณได้ และสามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตนเอง
ชาบูชิ มั่นใจว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ในมิติใหม่ ขยายฐานลูกค้าได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น และตอกย้ำการเป็น Top of Mind Brand ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นชื่อแรก ๆ เมื่อพูดถึงชาบู ชาบู และซูชิ พร้อมเดินหน้าต่อยอดกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด เข้าถึงใจผู้บริโภคทุกกลุ่มทั่วประเทศอย่างแท้จริง



