เปิด 3 มุมมองร้านดัง คนละครึ่ง เดลิเวอรี ผ่าน LINE MAN สร้างโอกาสใหม่ ได้ลูกค้าเพิ่ม ดันยอดโตควบคู่หน้าร้าน

ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักหลังจากที่เปิดให้มีการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งพลัสในวันแรก เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา สร้างความคึกคักให้กับธุรกิจร้านอาหาร หลายผู้ประกอบการมองเห็นโอกาสใหม่จากโครงการ คนละครึ่งพลัส โดยมีแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เป็นแรงสนับสนุนสำคัญ ที่ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงเมนูโปรดได้สะดวกขึ้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้ร้านอาหารก้าวสู่โลกดิจิทัล ขยายฐานลูกค้า และสร้างยอดขายที่เติบโตอย่างยั่งยืน
เสียงสะท้อนจากเจ้าของร้านอาหารทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก๋า ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในเฟสก่อนหน้า ยืนยันตรงกันว่า LINE MAN ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ แต่คือ พาร์ทเนอร์คู่คิด ที่พร้อมเดินเคียงข้างในทุกก้าวของการเติบโต ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย และแคมเปญที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนร้านอาหารให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน
ร่วม คนละครึ่ง ผ่าน LINE MAN เพิ่มยอดขายได้จริง
คุณวราภัสร์ ทวิวรดิลก เจ้าของร้าน บะหมี่คนแซ่ลี เล่าว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟสแรกผ่าน LINE MAN ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือ ยอดขายเพิ่มขึ้นจริง และทำให้ร้านขยายฐานไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่กลับกลายเป็นลูกค้าประจำ โดยเฉพาะกลุ่มที่สั่งผ่านออนไลน์ ซึ่ง LINE MAN ถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญมาก ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย ช่วยเพิ่มการมองเห็นของร้าน และมีทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เราตัดสินใจเข้าร่วมเพราะมองว่าเป็นโอกาสใหม่ แม้ตอนนั้นเดลิเวอรี่จะยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา แต่พอเข้ามาแล้วก็เห็นผลทันที
นอกจากนี้เชื่อว่าโครงการ คนละครึ่งพลัส ในครั้งนี้จะไม่เพียงช่วยร้าน แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าบางสาขาของร้านจะมีข้อจำกัด แต่เชื่อว่าจากกระแสตอบรับที่ดีหลังเปิดให้ลงทะเบียน เชื่อว่าจะสร้างความคึกคักให้ตลาดได้อย่างแน่นอน
เชื่อมลูกค้าหน้าร้านออนไลน์ สร้างโอกาสเข้าถึงที่มากขึ้น
ด้านคุณนพมาศ สุระเรืองชัย เจ้าของร้านฉอเล้งหมี่กระเฉดตลาดพลู กล่าวว่า ที่ผ่านมาเลือกเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งผ่าน LINE MAN เพราะต้องการตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างมากหลังโควิด ซึ่งในตอนนั้นเฟสแรกของโครงการสร้างยอดขายของร้านเพิ่มขึ้นถึง 2025% ส่วนในปีนี้อาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจ ลูกค้าเริ่มใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่มองว่านโยบายจากภาครัฐ ถือเป็นโอกาสสำคัญ จึงอยากชวนร้านอาหารที่ยังลังเลให้เข้าร่วมโครงการกับ LINE MAN เพราะเป็นแพลตฟอร์มใช้งานง่าย สะดวก และยังมาพร้อมแคมเปญโปรโมชันที่สร้างความคุ้มค่าให้ทั้งผู้บริโภคและร้านอาหาร
คนละครึ่ง ดึงลูกค้าประจำกลับมาซื้อบ่อยขึ้น
คุณดำรงศักดิ์ แสงงิ้ว เจ้าของร้านหมูทอด Bunbun กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟสแรกที่ผ่านมาสำหรับเรา แม้จะไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขายและลูกค้าใหม่มากนัก เพราะเดิมลูกค้าของร้าน 70% เป็นกลุ่มออนไลน์อยู่แล้ว แต่ถือว่าโครงการนี้เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ทำให้ลูกค้าประจำซื้อบ่อยขึ้น และหากไม่เข้าร่วมลูกค้าเก่าจะหายไป ซึ่งการกลับมาของคนละครึ่งพลัสที่รัฐให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น น่าจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้จ่ายง่ายขึ้น สร้างความคึกคักได้พอสมควร จึงอยากชวนร้านอาหารมาเพิ่มทางเลือกให้กับคนไทยกันเยอะ ๆ โดยมองว่าการร่วมโครงการผ่านแพลตฟอร์ม LINE MAN ไม่ยุ่งยาก แถมยังมีแคมเปญให้ประโยชน์เพิ่มเติมกับทั้งร้านอาหารและลูกค้าที่เป็นประโยชน์กับร้านอีกด้วย
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า LINE MAN ไม่ได้เพียงมอบสิทธิพิเศษให้ร้านอาหาร แต่คือการลงทุนเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างแข็งแรงในยุคดิจิทัล สำหรับร้านอาหารที่สมัครเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส ผ่าน LINE MAN บนแอปถุงเงิน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการรับค่าธรรมเนียม GP เพียง 7% สำหรับออเดอร์คนละครึ่งพลัสที่สมัครในวันเปิดโครงการ และรับค่า GP 9% สำหรับผู้ที่สมัครหลังจากนั้นจนจบโครงการ
นอกจากนี้ยังได้รับคูปองส่วนลดเพื่อกระตุ้นยอดขายสูงสุด 4,000 บาท พร้อมส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าอีก 2,500 บาท และเครดิตโฆษณาในแอปสูงสุด 1,000 บาท เพื่อเพิ่มการมองเห็นของร้าน อีกทั้งยังมีการขยายระยะทางส่งฟรีเป็น 5 กิโลเมตร สนับสนุนด้วยสื่อโฆษณา ณ จุดขาย (POSM) เพื่อบอกให้ลูกค้าทราบว่าร้าน
สามารถสั่งผ่านโครงการได้ รวมถึงส่วนลดค่าบริการระบบจัดการร้านอาหาร (POS) สูงสุด 8,000 บาท และวงเงินกู้เพื่อใช้ต่อยอดธุรกิจ พร้อมกิจกรรมทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายร้านอาหารทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง



