จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 1.2% โดยหดตัวจากไตรมาสก่อน -0.6 %QoQSA

Key Highlights :
- เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3/2568 ขยายตัวที่ 1.2%YoY โดยเป็นการหดตัวจากไตรมาสก่อนที่ -0.6%QoQSA หดตัวครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาส จากผลกระทบด้านความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวที่ถูกซ้ำเติมด้วยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และการส่งออกที่แม้จะขยายตัวสูงหลังการประกาศภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ แต่ส่งผลต่อ GDP อย่างจำกัด โดยสภาพัฒน์คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวที่ 2.0% ท่ามกลางการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้บทสรุป อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
- Krungthai COMPASS ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัว 2.0%YoY โดยระยะข้างหน้าปัญหาการส่งออกที่ดีไม่ส่งผลต่อ GDP เท่าที่ควรจะยิ่งชัดเจนมากขึ้น หลังสินค้าส่งออกไทยที่ขยายตัวดีส่วนใหญ่มี local content ต่ำ อีกทั้ง แนวโน้มการส่งออกในปีหน้าที่อาจไม่หดตัวรุนแรง หลังยังไม่เห็นสัญญาณการ build-up stock ของสหรัฐฯ ที่ผิดปกติ ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่กลับมามีความไม่แน่นอนหลังถูกยกเป็นส่วนหนึ่งในข้อเจรจาประเด็นความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
จีดีพีไตรมาส 3/2568 ขยายตัว 1.2%YoY ชะลอลงจากไตรมาสก่อน จากภาคการท่องเที่ยวที่หดตัว ประกอบกับการส่งออกที่ขยายตัวสูงไม่ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจมากนัก
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 1.2%YoY และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าหดตัว -0.6%QoQSA โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก
- การส่งออกสินค้ายังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยมีการขยายตัวสูงที่ 10.8%YoY เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 14.3%YoY โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แม้จะมีการประกาศอัตราภาษีนำเข้า reciprocal tariff ของสหรัฐฯ ที่ไทยถูกจัดเก็บที่ร้อยละ 19% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้า
- อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยที่เร่งตัวนับตั้งแต่ต้นปีส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มี local content ต่ำ ทำให้แม้การส่งออกจะขยายตัวสูง แต่ไม่ได้ส่งผลดีไปยังภาคส่วนอื่นของเศรษฐกิจดังเช่นอดีต สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ในไตรมาสนี้หดตัวที่ -2.4%YoY โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพียง (CapU) 57.4% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 สะท้อนความเสี่ยงที่การส่งออกบางส่วนจะเป็นสินค้า transshipment
- ขณะที่การท่องเที่ยวหดตัวสูงที่ -10.7%YoY จากผลกระทบด้านความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของ นักเที่ยวต่างชาติต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี ซ้ำเติมด้วยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
หมายเหตุ: สินค้ากลุ่ม Low local content ประกอบด้วย เหล็กและโลหะ, อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องจักรและอุปกรณ์, ยานพาหนะและชิ้นส่วน
อ้างอิงจากผลการศึกษา ภาษีทรัมป์ 2.0 กับความท้าทายต่อภาคการส่งออกไทย (2025) สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
เศรษฐกิจในไตรมาส 3 หดตัวจากไตรมาสก่อนที่ -0.6%QoQSA เป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาส โดย
- การส่งออกบริการหดตัว -5.7%QoQSA ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่หดตัว -6.6%QoQSA ตามจำนวนนักท่องเที่ยวจากเกือบทุกชาติในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจากจีน ประกอบกับความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ช่วงเดือน พ.ค. ซ้ำเติมจากปัญหาความเชื่อมั่น ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสนี้หดตัว -13.5%YoY แม้ว่าบางส่วนจะชดเชยด้วยนักท่องเที่ยวกลุ่ม long haul ที่ขยายตัวได้ 5.3%YoY
- การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวที่ -2.4%QoQSA จากทั้งด้านรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยเป็นการหดตัว 3 จาก 4 ไตรมาสหลังสุด สะท้อนปัญหาในการเบิกจ่ายภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการที่ไตรมาสนี้อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองนับตั้งแต่ปี 2566 ที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลแล้วถึง 3 ครั้ง
- นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าขยายตัวชะลอลงที่ 1.5%QoQSA เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 3.4% QoQSA สะท้อนผลจากภาษี reciprocal tariff ของสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งผล สอดคล้องกับภาวะการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ของหลายประเทศในเอเชียที่ชะลอลงนับตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 3 โดยมีเพียงสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังขยายตัวสูงตามการลงทุนใน Data center ของสหรัฐฯ
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 สศช. คาดว่าจะขยายตัว 2% โดยมีปัจจัยเสี่ยงระยะข้างหน้า
1) ผลกระทบจากการดำเนินมาตรการภาษีศุลกากรนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้า transshipment 2) ความผันผวนของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกจากผลของภาษีสหรัฐฯ และ 3) ปัจจัยทางการเมืองช่วงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อาจกระทบต่อความไม่แน่นอนในระยะสั้น อย่างไรก็ดี สศช. มองว่าเศรษฐกิจมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มที่ดี 2) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 ของภาครัฐ
Implication:
- Krungthai COMPASS ประเมินว่าเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดที่ 1.2%YoY และยังเป็นการหดตัวจากไตรมาสก่อนที่ -0.6%QoQSA สะท้อนเศรษฐกิจที่ขาดแรงขับเคลื่อน แม้การส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้จนถึงไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวสูง 13.9%YoY (custom basis) แต่ไม่ได้ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจอื่นเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นการส่งออกที่มี local content ต่ำ โดยหากไม่รวมกลุ่มที่มี local content ต่ำ สินค้าที่มีสัดส่วน foreign content จากจีนเพิ่มขึ้น และทองคำ การส่งออกไทยจะขยายตัวได้เพียง 5.6%YoY
- นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออกในระยะข้างหน้าอาจไม่ได้หดตัวรุนแรง หลังการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ตลอดช่วงปี 2568 สะท้อนจากสินค้าคงคลังของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ยังไม่เห็นสัญญาณการ build-up stock ที่สูงผิดปกติ
- สอดคล้องกับเครื่องชี้ด้านการบริโภคสหรัฐฯ ที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ผลกระทบจากภาษีจะเริ่มส่งผ่านไปยังผู้บริโภคมากขึ้น อย่างไรดี อุปสงค์จากสหรัฐฯที่ยังดี อาจยิ่งซ้ำเติมปัญหาที่เศรษฐกิจไทยไม่ได้รับผลดีจากการส่งออกอย่างเต็มที่ และอาจถูกเพ่งเล็งจากสหรัฐฯ เพิ่มเติมจากการส่งออกสินค้าที่มีความเสี่ยงเป็น transshipment
- Krungthai COMPASS ยังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2.0%YoY โดยในไตรมาสสุดท้ายของปีอาจมีแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่กลับมามีความไม่แน่นอนหลังถูกยกเป็นส่วนหนึ่งในข้อเจรจาประเด็นความขัดแย้งไทย-กัมพูชา


