แชร์

บลจ.กรุงศรี โชว์ผลงานปี 2568 โตเหนืออุตสาหกรรม พร้อมแนะนำการจัดพอร์ต

อัพเดทล่าสุด: 20 พ.ย. 2025
102 ผู้เข้าชม

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารอยู่ที่ 714,755 ล้านบาท เติบโต 10% ตั้งแต่ต้นปี และสูงกว่าอุตสาหกรรม 3% โดยกองทุนรวมยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัทและมีการเติบโตโดดเด่นถึง 13% ตั้งแต่ต้นปี สูงกว่าอุตสาหกรรม 6% การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้ได้รับประโยชน์จากเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิกว่า 57,000 ล้านบาท คิดเป็น 23% ของเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิทั้งหมด ทั้งนี้ กองทุนรวมของ บลจ.กรุงศรี มีขนาดใหญ่อันดับที่ 5 ของอุตสาหกรรม (ข้อมูล ณ ก.ย. 68)

กองทุนรวมของ บลจ.กรุงศรี ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ กองทุนกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้สะสมมูลค่า (KFSMART-A) มีเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 35,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรมในกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้น และกองทุนกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้สะสมมูลค่า (KFAFIX-A) ซึ่งมีเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 39,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ของอุตสาหกรรมในกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง

นอกจากนี้ ในปี 2568 บลจ.กรุงศรี ยังได้รับรางวัลจากสถาบันชั้นนำระดับสากลรวมทั้งสิ้น 13 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลจากสถาบันในประเทศ 5 รางวัล รวมถึงรางวัลจากสถาบันต่างประเทศอีก 8 รางวัล ครอบคลุมทั้งรางวัลบริษัทจัดการกองทุนรวมดีเด่น รางวัลการบริหารกองทุนตราสารหนี้ และรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภทต่างๆ สะท้อนถึงศักยภาพ ความเป็นมืออาชีพ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของบริษัท (ข้อมูล ณ พ.ย. 68)

สำหรับแผนธุรกิจปี 2569 บริษัทยังคงมุ่งพัฒนากองทุนและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ภาวะตลาด โดยเพิ่มความหลากหลายของกองทุนสกุลเงินต่างประเทศ รวมถึงกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนรายใหญ่ พร้อมขยายช่องทางจัดจำหน่ายร่วมกับพันธมิตร รวมทั้งยกระดับประสบการณ์ใช้งานผ่าน @ccess Mobile อย่างต่อเนื่อง

ด้านมุมมองเศรษฐกิจโลกปี 2569 นายศิระ คล่องวิชา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น หลายประเด็นมีความชัดเจน เช่น การผ่อนคลายมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลง และแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศ ค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่องจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้เศรษฐกิจประเทศหลักจะฟื้นตัวแตกต่างกัน แต่ภาพรวมยังอยู่ในทิศทางขยายตัว เห็นได้จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวและเงินเฟ้อใกล้ระดับเป้าหมาย ส่วนเศรษฐกิจจีนยังเผชิญความท้าทายจากการชะลอตัวของการบริโภคและปัญหาอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวจากการปรับขึ้นค่าจ้างและนโยบายของรัฐบาลใหม่

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่พื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนโดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดตราสารหนี้เริ่มฟื้นตัวจากทิศทางการลดดอกเบี้ย ซึ่งเหมาะกับการทยอยลงทุนของนักลงทุนระยะกลางถึงยาว ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจโลกมาจากการเติบโตของเทคโนโลยีและ AI รวมถึงการย้ายฐานการผลิตเพื่อลดผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และการยุติการลดขนาดงบดุลของเฟด (QT) วงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดโลก แต่ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม เช่น ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาการเมืองฝรั่งเศสที่อาจนำไปสู่วิกฤติในยุโรป และการแทนที่แรงงานด้วย AI ที่ส่งผลต่อการว่างงาน

ธีมการลงทุนเด่นในปี 2569 ได้แก่ หุ้นกลุ่ม AI, หุ้นสหรัฐฯ ที่ได้แรงสนับสนุนจากการลงทุนด้าน AI และการลดภาษี, หุ้น Healthcare ที่ราคาหุ้นไม่แพง, และหุ้นเทคโนโลยีจีนที่ได้รับการสนับสนุนจากการพัฒนา AI อย่างรวดเร็ว กองทุนเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ KFGDIV, KFHEALTH, และ KFCHINA-T10PLUS ซึ่งคัดเลือกหุ้นคุณภาพจากกลุ่มเติบโตสูง และได้แรงหนุนจากทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปี 2569

เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งออกที่ปรับตัวดี และภาคการผลิตที่ฟื้นตัวตามตลาดโลก ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าคาด แม้ยังมีปัจจัยต้องติดตาม เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความล่าช้าในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่เศรษฐกิจเทคโนโลยี ด้านตลาดหุ้นไทยปี 2569 ยังคงน่าสนใจจากระดับราคาที่ไม่สูงเมื่อเทียบภูมิภาค และอัตราเงินปันผลมากกว่า 4% ต่อปี ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ออกมาดี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารที่ผลประกอบการเด่น กองทุนหุ้นไทยแนะนำ ได้แก่ KFENS50 และ KFTSTAR

บลจ.กรุงศรี ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยประเมินว่าเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยในช่วง 12 ปีข้างหน้า ประกอบกับเงินเฟ้อไทยอยู่ในระดับต่ำและอาจติดลบในปี 2568 จึงมีโอกาสที่ธปท.จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 12 ครั้งสู่ระดับ 1.001.25% ภายในครึ่งแรกของปี 2569 กองทุนตราสารหนี้ที่น่าสนใจ ได้แก่ KFSMART-A และ KFAFIX-A ส่วนตราสารหนี้ต่างประเทศยังคงน่าสนใจ เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้คุณภาพสูง โดยกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศแนะนำคือ KF-CSINCOME ที่กระจายการลงทุนทั่วโลกได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะกับสภาวะตลาดที่ยังผันผวน

โดยสรุปการจัดพอร์ตปี 2569 บลจ.กรุงศรี แนะนำให้กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ และหุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้โอกาสเติบโตสูงที่สุด อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ แม้ขยับขึ้นจากผลของมาตรการภาษี แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ขณะที่นโยบายการเงินและการคลังของประเทศหลักทั่วโลกยังสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้านตราสารหนี้ระยะกลางยังให้ผลตอบแทนที่ดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงและช่วยลดความผันผวนของพอร์ต ส่วนทองคำควรมีสัดส่วน 510% ของพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง แม้ระยะสั้นราคาจะปรับตัวขึ้น แต่ในระยะยาวยังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก โดยแนะนำการทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว นายศิระ กล่าว

            นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต รางวัลและการจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด กองทุน KFHEALTH และ KFCHINA-T10PLUS ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุน KFHEALTH ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทิพยประกันภัย ผนึกกำลังภาครัฐเอกชน ยกระดับความปลอดภัยทางถนนภายใต้โครงการ ขับดีมีวินัย ปลอดภัยทุกคน
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
20 พ.ย. 2025
TAGTHAi ร่วมสนับสนุนมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2568 หนุนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
TAGTHAi แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวแห่งชาติ ร่วมเป็นสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2568 (SEA Games 2025) ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568
20 พ.ย. 2025
MONEY EXPO 2025 BANGKOK YEAR-END  เปิดเวทีการเงิน-การลงทุนยิ่งใหญ่ รวมโปรแรงส่งท้ายปี ลดหย่อนภาษีสุดคุ้ม
เปิดแล้ว! งานมหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 8 MONEY EXPO 2025 BANGKOK YEAR-END รวมแคมเปญดีลดีที่สุดด้านการเงิน-การลงทุนโค้งสุดท้ายของปี ขนทัพแบงก์ บล. บลจ. ประกัน หน่วยงานรัฐและเอกชน กว่า 60 แห่ง นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ
20 พ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy