จากผู้รับสู่ผู้ให้ จากผู้เรียนรู้สู่ผู้ส่งต่อโอกาส ธนาคารไทยเครดิตเชื่อมั่นในพลังของการเรียนรู้ เพราะเราเชื่อว่า...เมื่อทุกคนลุกขึ้นมาส่งต่อความรู้ สังคมก็จะสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างงดงาม

เมื่อหนี้ครัวเรือนกลายเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ การแก้ปัญหาไม่ได้มาจากการสอนเพียงครั้งเดียว แต่อยู่ที่การปลุก พลังแห่งความรู้สร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อยอดและขยายต่ออย่างไม่สิ้นสุดคือสิ่งที่สำคัญ
ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา โครงการ ตังค์โต Know-how ของธนาคารไทยเครดิต ได้เดินทางเคียงข้างกับทุกคนทั่วประเทศ ถ่ายทอดความรู้ทางการเงินด้วยความตั้งใจจริง เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าใจเรื่องเงิน และใช้ความรู้นั้นสร้างชีวิตที่มั่นคงขึ้น
ในปี 2569 นี้ โครงการกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 หนึ่งทศวรรษแห่งการเรียนรู้และการเติบโตที่งดงาม สิ่งที่ธนาคารได้เห็นและภาคภูมิใจที่สุด ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ที่ผ่านการอบรม แต่คือการได้เห็น ผู้ที่เคยเป็นผู้เรียนรู้ กลายมาเป็น ผู้ถ่ายทอดความรู้ ส่งต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้คนรอบข้างในชุมชนของตนเอง
การเริ่มต้นเล็ก ๆ ของใจ สู่แรงบันดาลใจที่เติบโตไม่สิ้นสุด
พลังแห่งการส่งต่อที่งอกงามในหัวใจผู้คน ธนาคารไทยเครดิต เรายึดมั่นเสมอว่า ทุกคนมีคุณค่าและเมื่อผู้เรียนลุกขึ้นมาเป็นผู้ถ่ายทอดการเรียนรู้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้จริง
สิ่งที่ทำให้โครงการ ตังค์โต Know-how แตกต่างจากการให้ความรู้ทั่วไป คือ ผู้เรียนไม่ได้หยุดอยู่แค่การนำความรู้ไปใช้ในชีวิต แต่ได้รับการพัฒนาให้เป็น วิทยากรการเงินรุ่นใหม่ ผ่านหลักสูตร Train the Trainer ที่เข้มข้นและเป็นระบบ เพราะธนาคารเชื่อว่า ทุกคนคือคนสำคัญ และทุกคนล้วนมีศักยภาพในการถ่ายทอดความรู้ต่อ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการสาขา เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้นำชุมชน หรือแม้แต่เยาวชน
ปัจจุบัน มีวิทยากรต้นแบบด้านการเงินผ่านการอบรมแล้วกว่า 692 คน จากหลากหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่ผู้จัดการสาขา บุคลากรภาครัฐ โรงเรียน กลุ่มออมทรัพย์ จนถึงผู้นำชุมชน
พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้รับความรู้ แต่คือ จุดเชื่อมต่อ ที่ช่วยขยายความรู้ทางการเงินออกไปในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบแบบทวีคูณ ไม่ใช่แบบเส้นตรง
การพัฒนาวิทยากรจากผู้เรียนทำให้เกิด พลังการขยายผลอย่างทวีคูณ เพราะโครงการไม่ได้พึ่งพาวิทยากรจากธนาคารเพียงกลุ่มเดียว แต่ได้สร้างวิทยากรอีกหลายร้อยคนที่พร้อมกระจายความรู้สู่ชุมชนทั่วประเทศ
ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารไทยเครดิตทั้ง 281 แห่งทั่วประเทศ ไม่ได้เป็นเพียงจุดให้บริการทางการเงิน แต่ได้กลายเป็น ศูนย์ความรู้ทางการเงินของชุมชน ที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมวิทยากรท้องถิ่นที่เข้าใจบริบทพื้นที่ ถ่ายทอดความรู้ภายใต้ความเชื่อเดียวกันว่าทุกคนสำคัญและควรได้รับโอกาสเข้าถึงความรู้อย่างเท่าเทียม
ตัวอย่างจริงที่พิสูจน์ชัด เยาวชนคือ คนสำคัญ ที่จุดประกายความรู้ให้ชุมชนได้
หนึ่งในความภาคภูมิใจของโครงการ ที่สะท้อนปรัชญา Everyone Matters ได้เด่นชัดที่สุด คือค่ายเยาวชน ตังค์โต Know-how Young Ambassador ณ โรงเรียนมีชัยพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ มีนักเรียนระดับชั้นมัธยมต้นถึงปลายเข้าร่วมอบรม 140 คน ถือเป็นก้าวสำคัญในการมอบบทบาทที่สำคัญในการยกระดับให้เป็น ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่มีคุณค่าไม่ต่างจากผู้ใหญ่ทุกคน เพราะในสายตาของเราเยาวชนคือพลังสำคัญที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนได้จริง
พวกเขาไม่ได้เพียงเรียนรู้เรื่องการเงิน แต่ยังได้รับการบ่มเพาะทักษะวิทยากรอย่างเต็มรูปแบบ ผ่าน Active Learning ที่ผสานเวิร์กช็อป เกมจำลองสถานการณ์ และการฝึกนำเสนออย่างมืออาชีพ
สิ่งที่น่าประทับใจคือ เยาวชนทุกคนไม่เพียงผ่านการประเมินความรู้ทางการเงินเท่านั้น แต่ยังสามารถออกแบบแผนการถ่ายทอดความรู้ให้กับ 16 ชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งเป้าส่งต่อความรู้ให้ประชาชนกว่า 480 คน ภายใน 3 เดือน
นี่คือข้อพิสูจน์ว่า ทุกคนคือคนสำคัญ ไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องอายุหรือพื้นฐานชีวิต ทุกคนล้วนมีความสามารถพัฒนาให้เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้ เยาวชนกลุ่มนี้คือกุญแจสำคัญของความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เพราะพวกเขาจะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัว เพื่อน และชุมชน ในแบบที่เป็นธรรมชาติ น่าเชื่อถือ และเข้าถึงหัวใจของผู้คนได้มากที่สุด.
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: เมื่อความรู้กลายเป็นการกระทำ
การพัฒนาวิทยากรจากผู้เรียนไม่ใช่แค่แนวคิดสวยหรู แต่คือการสร้างผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง
- 87% นำความรู้ด้านการบริหารค่าใช้จ่ายไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- 82% วางแผนเป้าหมายทางการเงินอย่างเป็นระบบ
- 67% เริ่มออมเงินอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าการถ่ายทอดความรู้โดยผู้ที่เคยผ่านการอบรมจริง ไม่ได้ด้อยไปกว่าวิทยากรจากธนาคารกลับยิ่งสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจได้ลึกกว่า เพราะผู้ถ่ายทอดอยู่ในบริบทเดียวกัน มองเห็นปัญหาเหมือนกัน และที่สำคัญที่สุด คือพวกเขาเป็น หลักฐานมีชีวิต ว่า ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อทุกคนสำคัญ สร้างเครือข่ายความรู้จึงเติบโตได้ไม่รู้จบ Impact ที่แท้จริง จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวเลข แต่ขยายเป็นพลังการเปลี่ยนแปลงสังคม
หัวใจสำคัญอยู่ที่การพัฒนาผู้เรียนให้ก้าวขึ้นเป็นวิทยากร นำไปสู่การก่อร่าง เครือข่ายความรู้ที่เติบโตได้เอง (Self-Sustaining Knowledge Network) เมื่อวิทยากรทั้ง 692 คนกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ และแต่ละคนสามารถถ่ายทอดความรู้ต่อให้ผู้คนได้อีกหลายสิบคน จึงเกิดเป็น กระแสแห่งการเรียนรู้ ที่ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง งอกงามด้วยพลังของผู้คนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการขับเคลื่อนจากส่วนกลางเพียงลำพัง แต่คือความแตกต่างระหว่าง การให้ กับ การสร้างให้เกิด การให้ความรู้โดยตรงย่อมมีขีดจำกัด แต่เมื่อเราพัฒนาผู้เรียนให้กลายเป็นผู้ถ่ายทอด พร้อมเชื่อมั่นว่าทุกคนคือคนสำคัญที่มีศักยภาพสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะขยายต่ออย่างไม่รู้จบ
เมื่อมองภาพรวม โครงการ ตังค์โต Know-how จัดอบรมแล้วกว่า 7,109 ครั้งทั่วประเทศ เข้าถึงประชาชน 296,473 คน แต่สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าตัวเลข คือ การเติบโตของวิทยากร 692 คน ที่พร้อมส่งต่อความรู้และการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ให้ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
หากวิทยากรแต่ละคนส่งต่อความรู้ให้คนรอบตัวได้อีก 100 คน จะเกิดการเรียนรู้อย่างน้อยกว่า 69,200 คนเพิ่มขึ้น และเมื่อผู้ที่ได้รับความรู้เหล่านั้นถ่ายทอดต่ออีกชั้นหนึ่ง ผลลัพธ์ก็จะทวีคูณ ขยายวงอย่างไม่รู้จบ เป็นพลังของการส่งต่อสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ไกลกว่าที่องค์กรใดองค์กรหนึ่งจะทำได้เพียงลำพัง
โครงการ "ตังค์โต Know-how" พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การแก้ปัญหาหนี้สินและสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับสังคมไทยไม่ได้อยู่ที่การบรรยายในห้องประชุม แต่อยู่ที่การ สร้างกระแสการเรียนรู้ให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อผู้ผ่านการอบรมกลายเป็นวิทยากร วิทยากรกลายเป็นผู้พัฒนาวิทยากรคนใหม่ และวงจรนี้หมุนเวียนต่อไปเรื่อยๆ นั่นคือเมื่อ "ความรู้" กลายเป็น "การเคลื่อนไหวทางสังคม" (Social Movement) ที่แท้จริง - การสร้างสังคมไทยที่มีภูมิคุ้มกันทางการเงินอย่างยั่งยืน ผ่านพลังของคนธรรมดาที่กลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความเท่าเทียมขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตามปรัชญาธนาคารไทยเครดิต Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ


