FWD จัดเวิร์กช็อป "ครูไทยเก่งการเงิน" เพราะครูคือกุญแจสำคัญในการสร้างเด็กไทยให้แข็งแกร่งทางการเงิน

เราอาจจะสอนให้เด็กคิดเลขได้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ การให้เด็กเข้าใจว่าเงินแต่ละบาทมาจากไหน และควรใช้ยังไงให้คุ้มค่า ครูไมค์อิสรีย์ ตั้งติรวัฒน์ ครูคณิตศาสตร์จากโรงเรียนทุ่งมหาเมฆ กล่าวหลังเข้าร่วมเวิร์กช็อป ครูไทยเก่งการเงินภายใต้โครงการ JA SparktheDream ที่ FWD ประกันชีวิต ร่วมกับมูลนิธิจูเนียร์อะชีฟเมนท์ประเทศไทย (JA Thailand) จัดขึ้นในรูปแบบ Train the Trainer เพื่อเสริมความรู้ด้านการวางแผนและบริหารการเงินให้ครู พร้อมต่อยอดสู่การสอนเด็กๆ ให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
เดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทยและกัมพูชา บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปลูกฝังความรู้ทางการเงินตั้งแต่วัยเรียนเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คนรุ่นใหม่บริหารจัดการชีวิตได้อย่างมั่นใจและวางแผนการเงินอย่างมีระบบ เพราะความรู้ทางการเงินคือรากฐานของคุณภาพชีวิตที่ดี และครูคือผู้ถ่ายทอดความรู้ที่สำคัญนี้ให้เยาวชน ดังนั้นเราจึงควรเริ่มจากการเสริมศักยภาพให้ครูก่อน นี่คือที่มาของการต่อยอดโครงการ JA SparktheDream สู่ ครูไทยเก่งการเงิน ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความรู้ทางการเงินให้ครู สร้างความมั่นใจในการวางแผนการเงินและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
เวิร์กช็อปจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วัน มีครู 33 คนจาก 10 โรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเรียนรู้เรื่องการเงินผ่านการลงมือทำจริง โดยมีทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก Business Training Center ของ FWD นำโดยคุณพอลล่า ศรีประไพ นามแสน ที่ปรึกษาการเงิน AFPT (Associate Financial Planner Thailand) และคุณบอล อภิวิชญ์ ไพศาลทรัพย์ นักวางแผนการเงิน Certified Financial Planner (CFP) ทำหน้าที่บรรยายและให้คำแนะนำตลอดการอบรม พร้อมด้วยวิทยากรจิตอาสาจาก FWD รวม 15 คน ร่วมสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
โดยเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานการจัดทำรายรับ-รายจ่าย การจัดการหนี้ การออม การลงทุน การตั้งเป้าหมายทางการเงินแบบ SMART (Specific-Measurable-Achievable-Relevant-Time-bound) ไปจนถึงงบการเงินส่วนบุคคล เพื่อให้เห็นภาพการจัดการรายรับ-รายจ่าย ทรัพย์สิน และหนี้สินอย่างเป็นระบบ ไฮไลท์คือกิจกรรมบอร์ดเกม Wishlist ที่จำลองสถานการณ์ชีวิตจริง ภายใต้แนวคิด "จัดสรรเงิน เติมความฝัน" ที่ช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจหลักการเงินอย่างสนุกสนานและเข้าถึงง่าย จากนั้นลงลึกไปในเนื้อหาเรื่อง ประกันภัย การบริหารความเสี่ยง ผ่านการเล่นเกม Risky Lossy ที่จำลองสถานการณ์ความเสี่ยงในชีวิตให้เห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อม ด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม ทำให้ครูได้เห็นตัวเองในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และนิสัยการใช้เงินที่ควรปรับ
ตลอดสองวันของกิจกรรมเวิร์กช็อป ครูได้เรียนรู้ทั้งแนวคิดและการลงมือปฏิบัติจริง ช่วยให้เห็นภาพชัดว่าการบริหารเงินเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ที่สามารถส่งต่อให้กับนักเรียนได้
ครูผึ้งทัศน์วรรณ บุญมาก จากโรงเรียนโฆสิตสโมสร เล่าว่า การอบรมครั้งนี้ทำให้เข้าใจว่า การวางแผนการเงินคือการวางแผนชีวิต ถ้าปูพื้นฐานทางการเงินให้แก่เด็กๆ ได้ตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ก็จะส่งผลดีกับตัวเด็กเองในอนาคตระยะยาว สมัยเป็นเด็ก เราแทบไม่ได้เรียนเรื่องการเงินอย่างจริงจัง และไม่เคยสนใจการวางแผนการเงิน แต่เมื่อได้เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้ ทำให้เข้าใจว่า หากเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ เราจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายมากขึ้น กิจกรรมที่ประทับใจที่สุดคือบอร์ดเกม Wishlist ที่ทำให้เห็นตัวเองในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และนิสัยการใช้เงินของตัวเองที่ควรปรับ เธอจะนำแนวคิดนี้ไปสอนนักเรียนผ่านการทำงบดุลส่วนตัว เพื่อให้เด็กรู้จักแยกรายรับ-รายจ่าย และเห็นคุณค่าของการวางแผนทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก
ด้าน ครูบูเก้ชุติมา บุญฤดี จากโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก เห็นว่าความรู้ทางการเงินคือ "วินัยชีวิต" "อยากให้เด็กมีคติประจำใจว่า เก็บก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้เสร็จแล้วค่อยเก็บ เธอหวังว่าเด็กจะได้เรียนรู้ว่าเมื่อผู้ปกครองให้เงินมา ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมด และสามารถกลับไปบอกต่อผู้ปกครองได้ว่า เราสามารถเก็บออมได้หลากหลายรูปแบบ เพราะ ถ้าเด็กมีวินัยทางการเงิน เขาก็จะมีวินัยในการใช้ชีวิตที่ดี" หลังการอบรม เธอจะนำแนวคิดเรื่องการออมผ่านการลงทุน ความสำคัญของการทำประกันชีวิต มาแชร์ให้กับคนรอบข้างและส่งต่อถึงผู้ปกครอง โดยเด็กๆ สามารถเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวันผ่านเทคนิคการออมแบบง่ายๆ เช่น การหยอดกระปุก คุณครูยังวางแผนสร้างกิจกรรมออมเงินในห้องเรียนร่วมกันเพื่อจัดกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งจะทำให้เด็กๆได้เรียนรู้การวางแผน ปลูกฝังความรับผิดชอบร่วมกัน ผ่านวิธีที่เข้าใจง่ายและสนุก
ขณะที่ ครูไมค์อิสรีย์ ตั้งติรวัฒน์ จากโรงเรียนทุ่งมหาเมฆ รู้สึกว่าการเรียนรู้ครั้งนี้เปิดโลกใหม่ให้กับครูคณิตศาสตร์อย่างเธอ ทำให้ได้กลับมาทบทวนการจัดการการเงินที่ผ่านมา และได้เรียนรู้การวางแผนการเงินในอนาคต เธอเตรียมนำแนวคิดเรื่องการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และการวางแผนการใช้เงิน ไปปรับในบทเรียนคณิตศาสตร์ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง พร้อมปลูกฝังคุณค่าของเงินและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล เราอาจจะสอนให้เด็กคิดเลขได้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ การให้เด็กเข้าใจว่าเงินแต่ละบาทมาจากไหน และควรใช้ยังไงให้คุ้มค่า
หลังจบกิจกรรม ครูไทยเก่งการเงิน คุณครูบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ พร้อมเครื่องมือที่จะทำให้การสอนเรื่องการเงินง่ายขึ้น หลายคนตั้งใจนำแนวคิดไปต่อยอดในห้องเรียน ผ่านเกมหรือกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กเข้าใจการออม การใช้เงินอย่างมีเป้าหมาย และการวางแผนที่เหมาะกับช่วงวัย เพื่อให้เด็กเห็นคุณค่าของการออม การใช้เงินให้คุ้มค่า และเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเอง กิจกรรมนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยจุดประกายความคิดให้ครูนำแนวทางไปต่อยอด และส่งต่อไปถึงเด็ก ๆ ในห้องเรียน


