แชร์

ธอส. จัดทำมาตรการพักชำระหนี้ - ลดเงินงวด ลดดอกเบี้ย เคลมสินไหมเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

อัพเดทล่าสุด: 26 พ.ย. 2025
128 ผู้เข้าชม

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ห่วงใยลูกค้าและประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย เร่งออก 7 มาตรการพักชำระหนี้ - ลดเงินงวด ลดดอกเบี้ย เคลมสินไหมเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือและเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว ขอยื่นความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน การดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพ ของลูกค้าและประชาชนเป็นอย่างมาก ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ ทำให้คนไทยมีบ้าน
ได้จัดเตรียมมาตรการให้ลูกค้าสามารถพักชำระหนี้ ลดเงินงวด ลดดอกเบี้ย และเคลมสินไหมเร่งด่วน เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลลกระทบในพื้นที่ดังกล่าว ผ่าน มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าปัจจุบัน ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยพักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 - 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50% ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน เมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไป และลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยสามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อซ่อม แต่ง และสินเชื่อซ่อม- แต่ง Plus วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 5 ปี โดยวงเงิน 1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 200,000 บาทถัดมา โดยไม่ต้อง จดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน

มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อราย ต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 - 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด, อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 4 - 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (2.945% ต่อปี), ปีที่ 4 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี (3.845% ต่อปี) และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี, ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.245% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,100 บาทต่อเดือนเท่านั้น ฟรีค่าธรรมเนียมประเมิน ราคาหลักประกัน (1,900 2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้กลับมาใช้
อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้น เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท
และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

มาตรการที่ 5 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระ โดยใช้ อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 6 : สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

มาตรการที่ 7 : พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกราย อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครอง ภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)

นอกจากนี้ ธอส. ร่วมกับกรมธนารักษ์ และชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพอากาศ เตรียมลงพื้นที่ส่งมอบ ถุงยังชีพ และอาหารพร้อมทานให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ภาคใต้ เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนในเบื้องต้นลูกค้าและประชาชน ทั้งนี้ ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการดังกล่าวสามารถติดต่อ
ได้ที่สาขา ธอส. ตั้งแต่บัดนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ G H Bank Social Media และ www.ghbank.co.th



 


บทความที่เกี่ยวข้อง
เส้นทางส้ม 100 ล้าน! เกรียงศักดิ์ เถ้าแก่ส้ม ปั้นโชกุนเบตงสายน้ำผึ้งฝาง  เซเว่นฯ ช่วยเปิดตลาดใหญ่ ส่งถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ
การเติบโตของ ส้มแพ็กพร้อมทาน ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หรือที่เรียกกันติดปากว่า ส้มเซเว่น กำลังกลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจของตลาดผลไม้ไทย เมื่อโมเดล คัดแพ็กส่ง จาก SME
15 ธ.ค. 2025
เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่จาก ก.ล.ต.  ตอกย้ำบทบาทองค์กรในการสร้างความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) คว้า 4 รางวัล จากโครงการ ตลาดทุนไทยร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2 ปี 2568 ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
15 ธ.ค. 2025
ไทยฮอนด้า ผนึกกำลังร้านผู้จำหน่าย พร้อมกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และสื่อมวลชน ร่วมส่งมอบถุงยังชีพ 8,603 ถุง มูลค่ารวม 5.16 ล้านบาท บรรเทาผลกระทบน้ำท่วมหาดใหญ่
บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และคณะสื่อมวลชน เดินหน้าส่งต่อความห่วงใยสู่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย
15 ธ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy