บี.กริม มั่นใจลงทุนเวียดนาม เติบโตระยะยาว การเปลี่ยนผ่านนโยบายส่งผลกระทบน้อย
อัพเดทล่าสุด: 28 พ.ค. 2025
122 ผู้เข้าชม
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง แม้ขณะนี้รัฐบาลเวียดนามจะอยู่ระหว่างการหารือภายในและรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและประเมินผลกระทบอย่างรอบด้านต่อแนวทางการทบทวนอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังงานหมุนเวียน และยังต้องคำนึงถึงข้อกังวลจากนักลงทุนและสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน โครงการพลังงานหมุนเวียนในเวียดนามมีผู้ประกอบการและสถาบันการเงินมากกว่า 200 ราย จากหลายประเทศ เช่น ไทย จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ที่มีข้อผูกพันชัดเจน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างสัญญาต้องได้รับการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นคู่สัญญา รวมถึงหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญที่รัฐบาลเวียดนามต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บี.กริม ยังคงสามารถบันทึกรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญากับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ได้ตามปกติ
โดยสัดส่วนรายได้จากประเทศเวียดนามคิดเป็นเพียงประมาณ 3% ของรายได้รวมทั้งหมด และ บี.กริม ยังมีการกระจายรายได้ทดแทนจากโครงการในประเทศอื่น ๆ ทั้งในอาเซียนและเอเชียตะวันออกอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้ บี.กริม มีความยืดหยุ่นสูงในการบริหารความเสี่ยง และรักษาทิศทางการเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
นายพีรเดช พัฒนจันทร์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
บี.กริม มีโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการกระจายพอร์ตการลงทุนในหลายประเทศ ทั้งโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเช่นที่ประเทศเกาหลี ซึ่งช่วยเสริมความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงทางรายได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ เราเชื่อมั่นว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายเกิดขึ้นในเวียดนามจริง ผลกระทบต่อบริษัทจะอยู่ในวงจำกัด และไม่กระทบต่อทิศทางการเติบโตในระยะยาวของเรา
โดยบริษัทได้มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบในทุกโครงการ พร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้จากโครงการใหม่ และเตรียมแผนรองรับความไม่แน่นอนในเชิงกลยุทธ์ โดยมุ่งเน้นการรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน และความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจในทุกสภาวะ
บี.กริม ยังคงมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในหลากหลายประเทศ เช่น โครงการ ARECO solar PV กำลังการผลิตติดตั้ง 65 เมกะวัตต์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Nakwol Blueheart ที่มีกำลังผลิตรวม 365 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีความคืบหน้าโดยรวมแล้วประมาณ 50% โดยในส่วนของโครงสร้างกลางทะเลได้ดำเนินการตอกเสากังหันลม (monopile) ไปแล้วจำนวน 6 ต้น ส่วนงานก่อสร้างบนบกมีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 80% และอยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้สามารถเริ่มเดินเครื่องบางส่วนได้ภายไตรมาส 3 ปีนี้
บี.กริม ยังคงตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตรวมให้ได้ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ของพอร์ตทั้งหมด และเดินหน้าเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2593 ตามพันธกิจ Empowering the World Compassionately สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี
ปัจจุบัน โครงการพลังงานหมุนเวียนในเวียดนามมีผู้ประกอบการและสถาบันการเงินมากกว่า 200 ราย จากหลายประเทศ เช่น ไทย จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ที่มีข้อผูกพันชัดเจน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างสัญญาต้องได้รับการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นคู่สัญญา รวมถึงหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญที่รัฐบาลเวียดนามต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บี.กริม ยังคงสามารถบันทึกรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญากับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ได้ตามปกติ
โดยสัดส่วนรายได้จากประเทศเวียดนามคิดเป็นเพียงประมาณ 3% ของรายได้รวมทั้งหมด และ บี.กริม ยังมีการกระจายรายได้ทดแทนจากโครงการในประเทศอื่น ๆ ทั้งในอาเซียนและเอเชียตะวันออกอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้ บี.กริม มีความยืดหยุ่นสูงในการบริหารความเสี่ยง และรักษาทิศทางการเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
นายพีรเดช พัฒนจันทร์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
บี.กริม มีโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการกระจายพอร์ตการลงทุนในหลายประเทศ ทั้งโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเช่นที่ประเทศเกาหลี ซึ่งช่วยเสริมความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงทางรายได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ เราเชื่อมั่นว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายเกิดขึ้นในเวียดนามจริง ผลกระทบต่อบริษัทจะอยู่ในวงจำกัด และไม่กระทบต่อทิศทางการเติบโตในระยะยาวของเรา
โดยบริษัทได้มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบในทุกโครงการ พร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้จากโครงการใหม่ และเตรียมแผนรองรับความไม่แน่นอนในเชิงกลยุทธ์ โดยมุ่งเน้นการรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน และความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจในทุกสภาวะ
บี.กริม ยังคงมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในหลากหลายประเทศ เช่น โครงการ ARECO solar PV กำลังการผลิตติดตั้ง 65 เมกะวัตต์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Nakwol Blueheart ที่มีกำลังผลิตรวม 365 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีความคืบหน้าโดยรวมแล้วประมาณ 50% โดยในส่วนของโครงสร้างกลางทะเลได้ดำเนินการตอกเสากังหันลม (monopile) ไปแล้วจำนวน 6 ต้น ส่วนงานก่อสร้างบนบกมีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 80% และอยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้สามารถเริ่มเดินเครื่องบางส่วนได้ภายไตรมาส 3 ปีนี้
บี.กริม ยังคงตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตรวมให้ได้ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ของพอร์ตทั้งหมด และเดินหน้าเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2593 ตามพันธกิจ Empowering the World Compassionately สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี
บทความที่เกี่ยวข้อง
กสิกรไทย ส่งกองทุน K-CHINNO25A-UI สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ คว้าโอกาสทำกำไรในตลาด Private Equity ของจีน
18 มิ.ย. 2025
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ผู้ได้ลิขสิทธิ์จาก The Football Association Premier League Limited (Premier League)
18 มิ.ย. 2025
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการระดมทุนระดับโลก THSN Global Fundraising Movement
18 มิ.ย. 2025