แชร์

ส่งออก พ.ค. 2025 แรงเกินคาด มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ SCB EIC มองผลกระทบด้านการค้าระหว่างประเทศจะรุนแรงและชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เป็นต้นไป

อัพเดทล่าสุด: 19 มิ.ย. 2025
118 ผู้เข้าชม

มูลค่าส่งออกสินค้าไทยเดือน พ.ค. 2025 ขยายตัว 18.4%YOY อยู่ที่ 31,044.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าที่ประเมินไว้ (SCB EIC ประเมิน 9.0% และค่ากลาง Reuter Poll 6.7%) และขยายตัวดี เร่งขึ้นจาก 10.2%ในเดือน เม.ย. ส่งผลให้ภาพรวมมูลค่าส่งออกไทยช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 14.9% ทั้งนี้ หากพิจารณาการส่งออกปรับฤดูกาลพบว่าขยายตัว 8.4%MOM_SA สะท้อนการเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
(รูปที่ 1 และ 2)

SCB EIC ประเมินส่งออกไทยเดือนนี้ยังได้อานิสงส์จากการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แม้สหรัฐฯ เริ่มเก็บ Universal tariff 10% ขั้นต่ำเกือบทุกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 9 เม.ย. และเก็บภาษีเฉพาะเจาะจงสินค้า (Specific tariff) ได้แก่ ยานยนต์ 25% และ เหล็กและอะลูมิเนียม 50% แต่ยังคงไม่ตั้งกำแพงภาษีในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากซึ่งส่งผลให้เกิดการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ ก่อนชุดกำแพงภาษีทั้งหมดจะเริ่มมีผลจริง

การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ในเดือนนี้ขยายตัวได้มากถึง 35.1% ต่อเนื่องจาก 23.8%YOY ในเดือนก่อน โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวสูงถึง 50.0% ขยายตัวเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 29.9% โดยการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบขยายตัวกว่า 88.3% นอกจากนี้ การส่งออกไปจีนและฮ่องกงก็ขยายตัวดีเช่นกัน 28.0% และ 45.2% ตามลำดับ ปัจจัยหนุนหลักมาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่พุ่งสูงขึ้นมากที่ 217.8% (จีน) และ 70.9% (ฮ่องกง) โดยการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ จีน และฮ่องกง คิดเป็น 67.4% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดของไทยในเดือน พ.ค.

ทองคำยังเป็นปัจจัยหนุนการส่งออกที่สำคัญในเดือนนี้ แต่แรงส่งประเด็นพิเศษทองคำที่เคยช่วยให้การส่งออกไทยโตดีในช่วงที่ผ่านมากลับลดลงมาก โดยการส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปยังคงขยายตัวสูงมากถึง 57.1% แม้จะชะลอตัวลงจาก 256.0% ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากส่งออกไป กัมพูชา สปป. ลาว และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขยายตัวสูงที่ 136.4% 637.0% และ 100.0% ตามลำดับ (คิดเป็น 80.5% ของมูลค่าส่งออกทองคำฯ ไม่ขึ้นรูปทั้งหมดของไทย ในเดือน พ.ค.) ซึ่งอาจเป็นผลจากความต้องการทองคำในตลาดโลกเพื่อรองรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น รวมถึงปัจจัยราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นมาก

สำหรับแรงส่งประเด็นพิเศษจากการส่งออกสินค้ากลุ่มโลหะมีค่าฯ ซึ่ง SCB EIC ประเมินว่าเกือบทั้งหมดเป็นการส่งออกทองคำผสมแพลทินัมในสัดส่วนน้อยไปตลาดอินเดียเพื่อประโยชน์ทางภาษีของผู้นำเข้าอินเดีย[1] ปัจจัยพิเศษนี้
มีสัญญาณแผ่วลงชัดเจน มูลค่าส่งออกลดเหลือเพียง 64.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก่อนหน้าและลดลงจากสูงสุดในเดือน ก.พ. ที่ 1,269.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (รูปที่ 4)

มูลค่านำเข้าสินค้าไทยขยายตัวสูง โดยเฉพาะจากจีนและไต้หวัน อย่างไรก็ดี ดุลการค้าไทยกลับมาขยายตัวได้หลังจากหดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน ตามส่งออกที่เร่งขึ้น

มูลค่าการนำเข้าสินค้าเดือน พ.ค. อยู่ที่ 29,928.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 18.0% สูงกว่าที่ประเมินไว้ (SCB EIC ประเมิน 13.1% และค่ากลาง Reuter Poll 13.1%) เร่งขึ้นจาก 16.1% ในเดือนก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ทั้งนี้ การนำเข้า (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวสูง 11.5% โดยสินค้าทุนเป็นกลุ่มสินค้าหลักที่ขยายตัวสูง ขยายตัวถึง 41.1% (โดยเฉพาะการนำเข้าจากจีนและไต้หวันที่ขยายตัว 35.3% และ 61.7% ตามลำดับ) ในขณะที่ ยานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (รวมทองคำ) และ สินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 23.8% 19.3% และ 10.1% ตามลำดับ ขณะที่ สินค้าเชื้อเพลิงและอาวุธและยุทธปัจจัยหดตัว -11.8% และ -4.8% ตามลำดับ ดุลการค้าไทย (ระบบศุลกากร) ในเดือนนี้เกินดุล 1,116.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนของปี 2025 ดุลการค้าขาดดุลสะสม -1,123.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (รูปที่ 3)

SCB EIC มองส่งออกไทยจะชะลอลงและหดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี

SCB EIC ปรับประมาณการส่งออกไทยทั้งปีขึ้นเป็น -0.1% จาก -0.4% จากประมาณการครั้งก่อน โดยผลกระทบด้านการค้าระหว่างประเทศจะรุนแรงและชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เป็นต้นไป หลังจากที่หลายประเทศได้เร่งผลิตและส่งออกก่อนได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ทั้งนี้ SCB EIC มองว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าอาจยืดเยื้อไม่เสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา ผนวกกับกระบวนการทางกฎหมายภายในของสหรัฐฯ ต่อประเด็นอำนาจของประธานาธิบดีในการใช้นโยบายภาษีนำเข้า จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้ายังอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทั้งนี้หากพิจารณาสาเหตุการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นจากปัจจัยชั่วคราว และมีความเสี่ยงที่ปัจจัยเหล่านี้จะทยอยหมดไปในช่วงที่เหลือของปี สะท้อนจาก รูปที่ 4 แสดงแหล่งที่มาของการขยายตัวส่งออกไทย 5 เดือนแรก (14.9%) และพบข้อสังเกตดังนี้

การเร่งส่งออกสินค้าที่ยังไม่โดนภาษี : สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากยังคงไม่ถูกตั้งกำแพงภาษี ส่งผลให้เกิดการเร่งส่งออกสินค้าดังกล่าวไปสหรัฐฯ โดยการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มดังกล่าว เป็นแหล่งที่มาของการขยายตัว 5 เดือนแรกของไทยสูงถึง 5.5% จาก 14.9% อย่างไรก็ดีสินค้ากลุ่มนี้แนวโน้มชะลอลง จากความเสี่ยงต่อการโดน Specific Tariff ในระยะข้างหน้าและแรงหนุนการเร่งส่งออกที่จะแผ่วลงปัจจัยส่งออกทองคำชั่วคราวไปอินเดีย : ปัจจัยหนุนส่งออกทองคำพิเศษจากอินเดียชั่วคราวผ่านช่องว่างทางกฎหมายประเทศอินเดียที่เริ่มเห็นผลช่วงท้ายปี 2024 เป็นแหล่งที่มาจากการขยายตัวของการส่งออกไทย 5 เดือนแรก 2.2% อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนดังกล่าวเริ่มหมดไปหลังจากอินเดียได้มีการปรับเปลี่ยนกฎหมายใหม่ในช่วงเดือน มี.ค. สะท้อนได้จาก (รูปที่ 5 ซ้าย)ปัจจัยฐานต่ำในช่วงไตรมาแรกของปี 2024 : มูลค่าการส่งออกของไทยไตรมาส 1 ขยายตัวสูงส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานที่ค่อนข้างต่ำในปีก่อนหน้า โดยส่งออกไทยไตรมาสแรกของปี 2024 หดตัว -0.6% ส่งผลให้เกิดแรงส่งในช่วงต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 มีปัจจัยฐานสูง โดย ไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ขยายตัว 7.5% และ 10.5% ตามลำดับ สะท้อนถึงผลบวกจากปัจจัยฐานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่จะลดลง (รูปที่ 5 ขวา)มูลค่าการส่งออกข้าวมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง : มูลค่าการส่งออกข้าวมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2025 เนื่องจากราคาข้าวมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากสต็อกข้าวโลกที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกนโยบายควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย นอกจากนี้ ปริมาณการส่งออกข้าวก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดโลกคืนให้อินเดียและความต้องการนำเข้าข้าวของประเทศคู่ค้าปรับตัวลดลง
 
SCB EIC มองว่าในช่วงที่เหลือของปีการส่งออกไทยเผชิญความเสี่ยงด้านลบเพิ่มเติมจากปัจจัย

นโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยอาจมีแนวโน้มใช้ Specific Tariff เพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสินค้าส่งออกของไทยส่วนมากมีแนวโน้มได้รับผลกระทบ โดย SCB EIC พบว่า หากดูข้อมูลสินค้าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ที่มูลค่าสูงสุด 20 อันดับแรก (77.2% ของส่งออกไทยไปสหรัฐฯ) 4 จาก 20 สินค้า (33.8% ของส่งออกไทยไปสหรัฐฯ; กลุ่ม EE) อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดนเก็บ Specific Tariffs, 3 จาก 20 (9.8% ของส่งออกไทยไปสหรัฐฯ; กลุ่มเหล็ก&รถยนต์) อยู่ในกลุ่มโดนเก็บ Specific tariffs แล้ว และ 14 จาก 20 สินค้ากระจุกตัวในตลาดสหรัฐฯ ค่อนข้างสูง (มูลค่าส่งออกทั้งหมดของสินค้านั้นพึ่งพาตลาด สหรัฐฯ มากกว่า 20%) (รูปที่ 6)ความขัดแย้งอิสราเอลและอิหร่านที่หากบานปลายเป็นความขัดแย้งระดับภูมิภาค หรือรุนแรงขึ้นจนช่องแคบฮอร์มุซถูกปิดลงอาจกระทบราคาพลังงานและทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทั่วโลก เพิ่มความเสี่ยงเงินเฟ้อและซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่เผชิญผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ รวมถึงทำให้การขนส่งได้รบผลกระทบ และการค้าโลกอาจชะลอลงไปมากขึ้น


 


บทความที่เกี่ยวข้อง
กรุงเทพประกันภัยเร่งจ่ายเคลมสินไหมจากเหตุแผ่นดินไหว สร้างความเชื่อมั่นด้วยการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง รวมไปถึงธุรกิจประกันภัย
20 มิ.ย. 2025
SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต เชิดชูตัวแทนคุณภาพรับรางวัล TNQA
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพและแสดงความยินดีกับตัวแทนคุณภาพดีเด่นของ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต
20 มิ.ย. 2025
เอส เอฟ เปิดบ้านต้อนรับภาพยนตร์แอนิเมชันสุดป่วน  ของเด็กหนุ่มและมนุษย์ต่างดาวใน Disney and Pixar's Elio เอลิโอ
พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ต้อนรับภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์แห่งปี Disney and Pixar's Elio เอลิโอ
20 มิ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy