แชร์

AWC มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเติบโต ด้วยผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิที่ 1,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% (YoY) พร้อมเปิดประสบการณ์พิเศษ Jurassic World: The Experience

อัพเดทล่าสุด: 11 ส.ค. 2025
64 ผู้เข้าชม

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง รายได้รวมแตะ 5,211 ล้านบาท เติบโต 7.7% (YoY) มีกำไรจากดำเนินงาน 2,723 ล้านบาท เติบโต 9.3% (YoY) และกำไรสุทธิ 1,404 ล้านบาท เติบโต 12.7% (YoY) ด้วย Growth-Led Strategy รับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ และการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ ทั้งยังรักษาโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดย มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

กลุ่มโรงแรมสร้างรายได้รวมที่ 2,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการรับรู้รายได้จาก ทรัพย์สินใหม่ รวมทั้งการเติบโตของโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ทระดับลักชัวรี และรายได้ที่เติบโตโดดเด่น

ของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมเปิดตัวโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา เสริมพอร์ตโฟลิโอที่เติบโตก้าวกระโดดมากกว่า 2 เท่านับตั้งแต่ IPO รวมมูลค่าทรัพย์สินสิ้นไตรมาส 2/2568 ที่ 212,616 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลสร้างกระแสเงินสดอย่างมั่นคง จากการเสริมกลยุทธ์พัฒนาศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานตามแนวคิด AWCs Lifestyle Destination พร้อมเปิดตัว Jurassic World: The Experience และ หลากหลายประสบการณ์พิเศษใน Hatch Dome ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกสนับสนุนกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน เพิ่มการเติบโตของรายได้และผู้เช่า พร้อมสนับสนุนกรุงเทพฯ และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก

กรุงเทพฯ 13 สิงหาคม 2568 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,211 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 7.7 (YoY) และมีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) อยู่ที่ 2,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 (YoY) ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 (YoY) พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศ อาทิ โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา โรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา (เตรียมรีแบรนด์เป็นโรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก) และล่าสุดได้เปิดตัว Jurassic World: The Experience และ Hatch Dome แลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สร้างปรากฏการณ์ความสนุกสุดยิ่งใหญ่ต้อนรับทุกคนในครอบครัว สนับสนุนกลยุทธ์การดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน เพื่อเพิ่มการเติบโตของรายได้และจำนวนผู้เช่าก้าวกระโดด รวมถึงการเติบโตของรายได้จากโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี ซึ่งยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในเกาะสมุย และรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่เติบโตสูงขึ้น รวมถึงการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและมั่นคงของกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล ซึ่งสามารถเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่และรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น จากการเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้าง AWCs Lifestyle Destination ที่โดดเด่น

สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ Growth-Led Strategy ที่ให้ความสำคัญกับการขยายทรัพย์สินดำเนินงานคุณภาพทั้งจาก Organic Growth และ Inorganic Growth และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้โครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.92 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม รวมถึงกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยเป็น

จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ตามพันธกิจ Building Better Future For All เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคน

กลุ่มธุรกิจโรงแรมเติบโตแข็งแกร่ง แม้อยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว

ในไตรมาส 2 ปี 2568 กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปีก่อน ขับเคลื่อนด้วยการรับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ เช่น โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา และโรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา รวมทั้งรายได้ที่เติบโตจากโรงแรมในกลุ่ม รีสอร์ท ระดับลักชัวรี ซึ่งยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 (YoY) จากอัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อวัน (ADR) ที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) เติบโตร้อยละ 7.1 (YoY) โดยเฉพาะในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างเกาะสมุย ที่มีผลประกอบการที่โดดเด่น เช่นเดียวกับโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ที่ยังสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) เติบโตร้อยละ 8.4 (YoY) โดยพอร์ตโฟลิโอโรงแรมของ AWC ยังคงแข็งแกร่งด้วยดัชนีการสร้างรายได้ (Revenue Generation Index หรือ RGI) เฉลี่ยอยู่ที่ 102 โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี และโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มี RGI สูงถึง 118 และ 109 ตามลำดับ นอกจากนี้ รายได้จากพอร์ตโฟลิโออาหารและเครื่องดื่มยังขยายตัวร้อยละ 8.7 (YoY) โดยเฉพาะจากโครงการ เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์ นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพผ่านกลยุทธ์การร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งระดับประเทศและระดับโลก และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โรงแรมของบริษัทสามารถสร้างอัตราส่วนกำไรขั้นต้นในระดับที่สูง เช่น บันยันทรี สมุย มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 46 และโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 45 รวมทั้งบริษัทยังได้รับประโยชน์จากมาตรกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาล ซึ่งโรงแรมสำคัญๆ ของบริษัทหลายแห่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ โรงแรม หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา และโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ที่ได้รับยอดจองห้องพักในระดับสูง

นอกจากนี้ AWC ยังนำ อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล ได้รับรางวัล LEED Gold ตามมาตรฐานเวอร์ชัน 4BD+C : Hospitality เป็นโรงแรมแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสร้างความโดดเด่นให้กับการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ด้วยการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องผ่านการเปิดโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ในไตรมาสที่ผ่านมา และสามารถรับรู้รายได้จากโรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย และโรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา ในโครงการ จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทมีจำนวนโรงแรมทั้งสิ้น 24 แห่ง รวม 6,834 ห้องพัก ซึ่งสูงที่สุดในตลาดนับตั้งแต่ IPO โดยเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 3 โรงแรม รวม 930 ห้องพัก

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลสร้างกระแสเงินสดแข็งแกร่ง เสริมความหลากหลายให้พอร์ตโฟลิโอคุณภาพเปิดประสบการณ์ระดับโลก Jurassic World: The Experience และ Hatch Dome สู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์สำหรับอนาคต

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล ยังคงสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและแข็งแกร่งต่อเนื่อง ในไตรมาส 2/2568 ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดตามแนวคิด AWCs Lifestyle Destination โดยศูนย์การค้า

มีการเติบโตของรายได้ค่าเช่าร้อยละ 11.6 (YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้นร้อยละ 8.4 (YoY) โดยเฉพาะศูนย์การค้าที่ได้รับการปรับตำแหน่งทางการตลาด อาทิ พันธุ์ทิพย์ แอท งามวงศ์วาน พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงานยังมีการเติบโตของรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 (YoY) จากการรับรู้ผลการดำเนินงานของอาคารสำนักงานใหม่ จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์ ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงานคุณภาพใจกลางย่านรัชดา พร้อมเดินหน้าพัฒนาอาคารสำนักงานในเครือภายใต้แนวคิด Lifestyle Workplace ด้วยการเปิดตัว The Empire Food Lounge ณ อาคาร เอ็มไพร์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ที่ช่วยสนับสนุนให้ อาคาร เอ็มไพร์ สามารถคงรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ได้อย่างโดดเด่น โดยมีอัตราการรักษาผู้เช่า (Retention Rate) สูงถึงร้อยละ 99 แสดงถึงความเชื่อมั่น ในศักยภาพของอาคารสำนักงานคุณภาพระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลที่มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตรายได้อย่างต่อเนื่องผ่านการพัฒนาและปรับตำแหน่งทางการตลาด ส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วน กำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้อยู่ที่ร้อยละ 85 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ในส่วนของอาคารบริษัทยังมุ่งพัฒนาอาคารสำนักงานให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐานอาคารสีเขียว และการมีสุขภาวะที่ดีของผู้ที่มาใช้บริการ โดยล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐาน FITWEL ระดับ 2 ดาว สำหรับอาคารสำนักงาน 4 แห่ง ได้แก่ อาคาร "เอ็มไพร์" อาคาร แอทธินี ทาวเวอร์ อาคาร 208 แบงค๊อก และอาคาร อินเตอร์ลิ้งค์ ทาวเวอร์ บางนาพร้อมตั้งเป้านำอาคารทั้ง 4 แห่งผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED สำหรับอาคารสีเขียวภายในปีนี้

ด้านศูนย์การค้า AWC เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกโครงการ โดยมีการเปิด Food Lounge แห่งใหม่ที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ในขณะที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และพันธุ์ทิพย์ แอท งามวงศ์วาน มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยม ทั้งในด้านอัตราการเช่าและค่าเช่าพื้นที่ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกด้วยการเปิดตัว Jurassic World: The Experience สุดยอดประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟที่ยิ่งใหญ่ใหม่ล่าสุดของโลกครั้งแรก ในประเทศไทย ร่วมด้วย Jurassic World: The Experience Fossil & Flame Restaurant ห้องอาหารธีม Jurassic World แห่งแรกของโลกที่อยู่นอกสวนสนุก และโซน Hatch Dome ซึ่งรวบรวมประสบการณ์ด้านการเรียนรู้และความบันเทิงไว้ในที่เดียวในรูปแบบ Edutainment อาทิ Better World Better Future, Fossil Park และ Snake Garden ที่สนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตโดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่โครงการได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพิ่มการเติบโตของรายได้และผู้เช่า พร้อมสนับสนุนกรุงเทพฯ และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ยังได้รับรางวัล Mall of the Year Thailand จากเวที Retail Asia Awards 2025 ตอกย้ำศักยภาพของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ในการเป็นต้นแบบศูนย์การค้าระดับโลก ที่ผสานการท่องเที่ยว การเรียนรู้ และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สะท้อนวิสัยทัศน์ของ AWC ในการสร้างจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนให้กับประเทศไทย

มุ่งหน้าสู่ครึ่งปีหลังอย่างมั่นคง ด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง

AWC เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอคุณภาพสร้างความโดดเด่นให้การท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการคุณภาพในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ Lannatique Kalare จุดหมายปลายทางแห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนารูปแบบใหม่ใจกลางเชียงใหม่ ควบคู่กับการบริหารโครงสร้างทางการเงินอย่างแข็งแกร่ง

และการควบคุมต้นทุนทางการเงินอย่างมีวินัย โดยคงความเป็นผู้นำด้านโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมรักษาวินัยทางการเงินในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง เสริมความยืดหยุ่น ในการลงทุน และรองรับการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง

ทั้งนี้ บริษัทยังได้รับแรงสนับสนุนเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ เที่ยวไทย คนละครึ่ง ซึ่งช่วยกระตุ้นดีมานด์ของนักท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะโรงแรมในหัวหินและพัทยาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ขณะเดียวกัน ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่มีเครือข่ายนักท่องเที่ยวคุณภาพกว่า 710 ล้านคนทั่วโลก ยังช่วยเพิ่มสัดส่วนการจองตรง (Direct Booking) สูงถึงร้อยละ 70 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับยอดจองของโรงแรมในเครือ โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ สมุย กระบี่ และพัทยา ที่มียอดจองล่วงหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

Building Better Future For All ขับเคลื่อนอนาคตอย่างยั่งยืนเพื่อทุกภาคส่วน

AWC ยังคงมุ่งมั่นในพันธกิจ Building Better Future For All ผ่านการพัฒนาโครงการที่สร้างคุณค่าอย่างรอบด้านให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลิสต์ Fortune Southeast Asia 500 เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งได้รับคะแนนความยั่งยืนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ จากการจัดอันดับของ S&P Global และได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ FTSE4Good Index Series และ SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2567 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในด้านธรรมาภิบาล AWC ได้รับการรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลระดับอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยรางวัล ASEAN Asset Class และได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม Top 50 ASEAN Public Listed Companies in 2024 จากการประเมิน ASEAN Corporate Governance Scorecard (ACGS) ภายใต้โครงการ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนนเต็ม 100% จากการประเมิน AGM Checklist ประจำปี 2568 โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ ย้ำบทบาทผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก และความมุ่งมั่นของ AWC ในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน


บทความที่เกี่ยวข้อง
"Krungsri Finnovate" คว้ารางวัล "The Sauciest Dealmaker Investor"  ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการลงทุนแห่งอนาคต
"Krungsri Finnovate" ตอกย้ำบทบาทผู้นำในการขับเคลื่อนระบบนิเวศสตาร์ทอัพในภูมิภาค ด้วยการคว้ารางวัล "The Sauciest Dealmaker Investor"
11 ส.ค. 2025
เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมสนับสนุนการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2568
เมืองไทยประกันชีวิต สานต่อเจตนารมณ์แห่งความรัก ความกตัญญู และสายใยครอบครัว สนับสนุนการจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
11 ส.ค. 2025
นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย นำทีมคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เข้าพบเลขาธิการ คปภ. รับนโยบายพัฒนาธุรกิจประกันภัย
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา นายกสมาคมนายหน้าประกันวินาศภัยไทย พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เข้าพบ นายชูฉัตร ประมูลผล
11 ส.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy