เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เข้าซื้อที่ดินกว่า 2,400 ไร่ ในจ.ชลบุรี ปูพรมเตรียมสร้างนิคมอุตสาหกรรม หนุนเพิ่มรายได้พร้อมเสริมพอร์ตโฟลิโอแข็งแกร่ง

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท หนองเสือช้างชลบุรี จำกัด ซึ่งได้ถือครองที่ดินกว่า 2,400 ไร่ (384 เฮกตาร์) ในอำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 3,795 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม ตอบสนองความต้องการพื้นที่อุตสาหกรรมคุณภาพสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขณะเดียวกัน เป็นการขยายธุรกิจอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของ FPT ในอีอีซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนของปี 2568 (มกราคม-สิงหาคม 2568) มูลค่าการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในอีอีซีอยู่ที่ 74,792 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดของประเทศไทย
นายฮั่ว เตียง ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของอีอีซี และเป็นทำเลศักยภาพสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเสริมขีดความสามารถของบริษัทฯ ในการนำเสนอโซลูชันให้กับผู้ผลิตและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลกที่ต้องการย้ายฐานหรือขยายกำลังการผลิตมาในประเทศไทย โดยหลังจากเปิดตัว อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ (ARAYA The Eastern Gateway) ในจังหวัดสมุทรปราการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงต่อยอดสู่การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งที่สอง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย
การขยายธุรกิจครั้งนี้จะสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจของ FPT จากอสังหาริมทรัพย์เดิมที่มีทั้งที่อยู่อาศัย โรงงานและคลังสินค้าให้เช่า และพาณิชยกรรม ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอ ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจเติบโตมั่นคงยิ่งขึ้น โดยการผสานพอร์ตโฟลิโออุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ กับโครงการเชิงกลยุทธ์อย่าง อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ FPT กำลังสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมอัจฉริยะและยั่งยืนแห่งอนาคต เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีโลก

