แชร์

"นรินทร์ เผ่าวณิช" ปักหมุด กฟผ. เป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เพื่ออนาคตที่มั่นคงยั่งยืนของไทย

อัพเดทล่าสุด: 4 ธ.ค. 2025
104 ผู้เข้าชม

นรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 17 มุ่งขับเคลื่อน กฟผ. เป็นผู้ดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าไทยและเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านพลังงานไทยด้วยพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมเร่งจัดหา LNG ราคาถูกด้วยสัญญาระยะยาว หวังกดต้นทุนค่าไฟ

นายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนถึงทิศทางการดำเนินงานของ กฟผ. และแนวทางการบริหารงานหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 17 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี

นายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า ทิศทางพลังงานโลกที่มีความต้องการพลังงานหมุนเวียนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการขยับเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทยเร็วขึ้นเป็นปี ค.ศ. 2050 ทำให้ กฟผ. ต้องปรับบทบาทจากผู้ผลิตไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงไปสู่การดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าไทยและผู้นำการเปลี่ยนผ่านพลังงานไทยด้วยพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันระยะยาวและการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเร่งผลักดันโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในเขื่อนของ กฟผ. ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี รวมกำลังผลิต 1,638 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ กฟผ. ได้มองหาพลังงานคาร์บอนต่ำใหม่ที่ยั่งยืน อาทิ การนำไฮโดรเจนมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติในสัดส่วนร้อยละ 5 โดย กฟผ. ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงระบบเชื้อเพลิงผสมไฮโดรเจนของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม กฟผ. รวมทั้งสิ้น 6 โรงไฟฟ้า ได้แก่ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าน้ำพอง และโรงไฟฟ้าจะนะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรายงานผลการศึกษาข้อจำกัดของโรงไฟฟ้าต่อคณะกรรมการ กฟผ. ศึกษาและพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนียบนพื้นที่ศักยภาพ กฟผ. เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงผลักดันโรงไฟฟ้า SMR ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงของระบบไฟฟ้า เป็นพลังงานสะอาด และมีต้นทุนที่แข่งขันได้ สอดรับกับความต้องการของนักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์

กฟผ. ยังเร่งพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย (Grid Modernization) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นระบบไฟฟ้า รองรับความผันผวนจากการเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียน อาทิ โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ โดย กฟผ. มีแผนพัฒนาโครงการจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนกะทูน พัฒนาแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานซึ่งสามารถจ่ายไฟเข้าระบบไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว พัฒนาศูนย์การพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Forecast Center) ผสานข้อมูลพยากรณ์ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพยากรณ์ รวมถึงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับพลังงานทดแทน การเชื่อมโยงกับโรงไฟฟ้าเอกชน และการขยายตัวของอุตสาหกรรมดิจิทัลในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กฟผ. เดินหน้าจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ราคาถูกด้วยสัญญาระยะยาว พร้อมยืดอายุโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำ อาทิ โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงไฟฟ้าน้ำพอง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดต่ำลงและแข่งขันได้ พร้อมแสวงหาโอกาสต่อยอดธุรกิจ LNG ซึ่งล่าสุดบริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง กฟผ. กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ Topside สูบถ่าย LNG จากเรือขนส่งเข้าสู่สถานี LNG ณ ท่าเทียบเรือที่ 2 ของสถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุด แห่งที่ 2 จ.ระยอง เพื่อให้สถานีสามารถรักษาความต่อเนื่องของการรับเรือและจ่ายก๊าซธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมความมั่นคงของระบบพลังงานของประเทศในระยะยาวอีกด้วย

นายนรินทร์ เผ่าวณิช กล่าวต่อไปว่า ผมมุ่งบริหาร กฟผ. ให้เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI) ขับเคลื่อนดำเนินงานด้วยความรวดเร็วโดยยึดหลักธรรมภิบาล โปร่งใส และตรวจสอบได้ สนับสนุนบุคลากรเรียนรู้ทักษะใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบการบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ GRC (Governance Risk Management Compliance) โดย กฟผ. ถือเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งแรกของประเทศไทยที่ออกพันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืน (SLB) วงเงิน 2,000 ล้านบาท เป็นการใช้เครื่องมือทางการเงินเชื่อมโยงกับการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อการผลิตไฟฟ้า 1 หน่วย ในอัตราขั้นต่ำร้อยละ 20 ภายในปี พ.ศ. 2571 ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ กฟผ. ในการเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero

ส่วนการดูแลสังคม ชุมชน กฟผ. ยังคงเดินหน้าสร้างการยอมรับและความร่วมมือกับพันธมิตรทุกระดับ มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าในการพัฒนาธุรกิจใหม่ร่วมกับชุมชนด้วยการยกระดับจาก CSR สู่ CSV เติบโตด้วยกันอย่างยั่งยืน

กฟผ. จะไม่เป็นเพียง ผู้ผลิตฟ้าเพื่อความมั่นคง แต่จะเป็น ผู้นำการเปลี่ยนผ่านพลังงานไทยด้วยพลังงานสะอาด เทคโนโลยีอัจฉริยะ และการบริหารแบบมืออาชีพ เพื่ออนาคตที่มั่นคง ยั่งยืนของประเทศ และคนไทยทุกคน


บทความที่เกี่ยวข้อง
GC ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่  ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เสริมแกร่งโครงสร้างเงินทุนระยะยาว  รองรับการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และแกนนำธุรกิจเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. ประกาศความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท
4 ธ.ค. 2025
กรุงเทพประกันภัยครองอันดับความน่าเชื่อถือ A- (Stable) จาก S&P อย่างต่อเนื่อง
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน จาก Standard & Poors หรือ S&P สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก ที่ระดับ A- และยืนหยัดมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook)
4 ธ.ค. 2025
ท็อปส์ ร่วมแบ่งเบาภาระผู้ประสบภัยภาคใต้ มอบส่วนลดสินค้าทำความสะอาดสูงสุด 50% เพื่อช่วยฟื้นฟูเมืองให้คืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว
ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขอร่วมส่งกำลังใจ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องชาวภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย ด้วยการแบ่งเบาภาระในช่วงฟื้นฟูบ้านเรือน จัดโปรโมชั่นพิเศษลดราคาสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูงสุด 50%
4 ธ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy