แชร์

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย สร้างมาตรฐานใหม่บ้านรักษ์โลกสำเร็จเป็นรายแรก ของประเทศไทยได้อีกครั้ง กับ 2 โครงการบ้านสุดหรู ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียวไทย (TREES) จากสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI)

อัพเดทล่าสุด: 24 ธ.ค. 2025
145 ผู้เข้าชม

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นผู้นำอสังหาฯ หลังพัฒนาบ้าน 2 โครงการ แกรมเมอร์ สาทร และกูธ์เธ่ สุขุมวิท 76 ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียวของประเทศไทย TREES จากสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI) เป็นรายแรกของไทย สร้างมิติใหม่แห่งการอยู่อาศัยที่ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ทั้ง 2 โครงการใหม่ของเราผ่านเกณฑ์การประเมินจากสถาบันอาคารเขียวไทย ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ จากแผนงานสู่การนำไปปฏิบัติ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด ESG เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและยั่งยืนให้แก่สังคม พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์พื้นที่ ให้ประสบการณ์ที่ดีคงอยู่ (Inspiring experiences, creating places for good.) อย่างแท้จริง

สำหรับโครงการต้นแบบทั้ง 2 โครงการที่ทางบริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ โครงการ แกรมเมอร์ สาทร และ กูธ์เธ่ สุขุมวิท 76 ซึ่งได้ผ่านการรับรองเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย ประเภทอาคารพักอาศัย (TREES-Home  V.1.0) ในระดับ Gold จากสถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI)

โดยการรับรองดังกล่าวสะท้อนถึงการออกแบบ การก่อสร้าง และการดูแลที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอาคาร รวมถึงลดการใช้พลังงาน และลดการสร้างมลพิษที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมเกณฑ์หลักทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่

1.       พลังงาน (Energy) - ติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคา พร้อมติดตั้งโซล่าเซลล์ทุกหลัง

2.     น้ำ ขยะ ของเสีย (Water & Waste) - เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ จัดห้องคัดแยกประเภทขยะที่เหมาะสม รองรับเศรษฐกิจหมุนเวียน ติดตั้งถักดักไขมันลดภาระการเกิดน้ำเสียสู่สาธารณะ

3.     ผังบริเวณและภูมิทัศน์ (Site & Landscape) ออกแบบพื้นที่โครงการในตัวบ้านและส่วนกลางให้มีพื้นที่ สีเขียวมากกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่เปิดโล่ง ปรับปรุงสภาพอากาศจุลภาค (Microclimate) ช่วยลดปรากฎการณ์เกาะความร้อน (Urban Heat Island)  

4.       สภาพแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environment) - ออกแบบเน้นการพึ่งพาธรรมชาติ (Passive design)พร้อมติดตั้งระบบกรองอากาศ ERV ที่มีประสิทธิภาพการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 95% ในทุกห้องนอนและห้องนั่งเล่น, ติดตั้งพัดลมดูดอากาศในทุกห้องน้ำและห้องครัว เพื่อควบคุมความชื้นที่นำไปสู่การเกิดเชื้อโรค
และเชื้อรา

5.     วัสดุและทรัพยากร (Material & Resources) - เลือกใช้วัสดุก่อสร้างหลักที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัย โดยเลือกใช้และพัฒนาคู่ค้าใน Supply chain ให้ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon footprint product) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO)

6.     นวัตกรรม (Innovation) ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในส่วนกลาง และทุกยูนิตการขายทั้งร่วมมือกับมูลนิธิบ้านเด็กเข้าตรวจสอบและพัฒนาสิทธิมนุษยชนของแรงงานภาคการก่อสร้าง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มุ่งมั่นพัฒนาบ้านตามมาตรฐาน TREES-Home เพื่อให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่ลูกบ้านจะได้รับโดยตรง และสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น การประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศจากการป้องกันความร้อนเข้าสู่กรอบอาคาร โดยการติดฉนวนหลังคา การได้รับพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ขนาด 2.3 กิโลวัตต์ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ากว่า 4,198 กิโลวัตต์ต่อปี หรือ 20,987 บาทต่อปี พร้อมทั้งสามารถเพิ่มขนาดระบบไฟฟ้าจากการเตรียมโครงสร้างหลังคาไว้รอการติดตั้งในอนาคต รวมไปถึงการเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐาน มอก. ซึ่งช่วยให้ประหยัดน้ำได้มากกว่า 5% เมื่อเทียบกับมาตรฐานขั้นต่ำการประหยัดน้ำ และมีระบบถังดักไขมันเพื่อลดภาระให้กับระบบบำบัดน้ำเสีย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างหลักที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และดำเนินการจัดสรรพื้นที่ สีเขียวในโครงการอย่างเป็นระบบโดยภูมิสถาปนิก เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย

ความสำเร็จในครั้งนี้ บริษัทฯ รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่สามารถพัฒนาบ้านใน 2 โครงการใหม่ของเราให้เป็น บ้านรักษ์โลกที่จับต้องได้ พร้อมยกระดับมาตรฐานไปในทุกโครงการเพื่อสร้างการอยู่อาศัยที่เหนือระดับได้อย่างแท้จริง สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่ให้ความสำคัญในแนวทาง ESG  ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในหกเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่ม โดยทุกโครงการใหม่ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ และ 85% ของสินทรัพย์ที่เป็นของบริษัทฯจะต้องได้รับการรับรองหรืออยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานอาคารเขียวภายในปี 2573 บริษัทฯ จึงใส่ใจตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ การก่อสร้าง ไปจนถึงการบริหารจัดการหลังการขาย เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และลูกบ้านของเราอย่างแท้จริง นายภวรัญชน์ กล่าว

ทั้งนี้ โครงการ แกรมเมอร์ สาทร เป็นโครงการบ้านซีรี่ส์ใหม่ระดับลักชัวรี 3 ชั้น สไตล์ฝรั่งเศส มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท พื้นที่โครงการ 44.59 ไร่ จำนวน 194 ยูนิต โดยทำเลของโครงการตั้งอยู่บนถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้พื้นที่ CBD ย่านสาทร และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ มาพร้อมพื้นที่ Multifunction ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้ลงตัว โดยประกอบด้วยแบบบ้าน 3 แบบ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 204 - 284 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 15 20 ล้านบาท*

สำหรับโครงการ กูธ์เธ่ สุขุมวิท 76 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ในสไตล์ Futuristic Modern มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท พื้นที่โครงการ 33.3 ไร่ จำนวน 118 ยูนิต โดยโครงการตั้งอยู่บนทำเลสุขุมวิท ใกล้ BTS แบริ่ง เพียง 9 นาทีถึง ทางด่วน มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับความต้องการของหลากหลายเจเนอเรชั่นและไลฟ์สไตล์ โดยประกอบด้วยแบบบ้าน 3 แบบ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 283 - 461 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 16 30 ล้านบาท*


บทความที่เกี่ยวข้อง
อีซูซุร่วมกับเอส เอฟ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุดใหม่ล่าสุด  ISUZU V-CROSS 4X4 THE ONE & ONLY EXPERIENCE
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ร่วมกับ โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ โดย คุณสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด
24 ธ.ค. 2025
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์  ให้แก่โรงพยาบาลหนองแค จ.สระบุรี
นายอโนทัย ส่องประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ภาคกลาง นางกนกวรรณ คิวเจริญ ผู้จัดการสำนักงานสระบุรี พร้อมพนักงาน บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM  ร่วมมอบอุปกรณ์ ทางการแพทย์รวมมูลค่า 300,000 บาท
24 ธ.ค. 2025
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับ The First Ultimate Big Fan จัดกิจกรรมให้ลูกค้าคนสำคัญ One Day Trip in Chonburi มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับ The First Ultimate Big Fan จัดกิจกรรมลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ One Day Trip in Chonburi  โดยได้รับเกียรติจาก คุณภาสิกา นาเมืองรักษ์ Head Of Digital Media and Content
24 ธ.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy