แชร์

บอร์ดสมาคมประกันวินาศภัยไทยชุดใหม่ ประกาศทิศทางยุทธศาสตร์ 2 ปี มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจประกันวินาศภัย สู่ความมั่นคงและยั่งยืน

อัพเดทล่าสุด: 3 ก.ค. 2025
227 ผู้เข้าชม

คณะกรรมการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ประจำปี 2568-2570 ภายใต้การบริหารของ ดร.สมพร สืบถวิลกุล ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 2 และมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ประกาศแผนยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทย มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจประกันวินาศภัยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี โดยเน้นการยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมในทุกมิติ เดินหน้าผนึกแผนการทำงานร่วมกับคณะกรรมการประกันภัยสาขาต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ ประจำปี 2568-2570 และเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ พร้อมทั้งแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ร่วมกันกำหนดกรอบและทิศทางสำหรับยุทธศาสตร์สมาคมฯ โดยยังคงมีเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจประกันวินาศภัยเป็นเสาหลักของระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน ยึดนโยบายในการทำหน้าที่เป็นผู้บริหารความเสี่ยงมืออาชีพให้กับภาครัฐ และภาคเอกชน เน้นความเป็นมืออาชีพ สร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคมในมิติต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจประกันวินาศภัยไทยไปสู่การเติบโตอย่างอย่างมั่นคง และเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและสังคม โดยสอดรับกับแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2568-2573) ของสำนักงาน คปภ. ซึ่งมุ่งเน้นพันธกิจหลักที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่

พันธกิจที่ 1: เสริมสร้างความเชื่อมั่น และยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจประกันวินาศภัย รวมถึงส่งเสริมการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม พัฒนาและเผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านประกันภัย เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนและสังคม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการสื่อสารเชิงรุกผ่าน Digital Technology เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสร้างมาตรฐานการให้บริการของภาคธุรกิจ เพื่อยกระดับและความไว้วางใจในระบบประกันภัย พร้อมเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ประกันภัย และการตลาดเชิงรุก ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) เพื่อสร้างคุณค่าร่วมและผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

พันธกิจที่ 2: ส่งเสริม และสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมเสริมสร้างบทบาทในฐานะผู้บริหารความเสี่ยงมืออาชีพให้กับภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น InsurTech และ Big Data มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงในทุกมิติ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ที่ตอบสนองต่อความเสี่ยงอุบัติใหม่ เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเสี่ยงทางไซเบอร์ และความท้าทายในเศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังเน้นการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการพัฒนานวัตกรรมในด้านประกันวินาศภัย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งผลักดันให้ภาครัฐบูรณาการการประกันภัยเข้าไว้ในแผนยุทธศาสตร์ของชาติ เพื่อใช้ในการบริหารความเสี่ยงทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

พันธกิจที่ 3: ผลักดันนโยบาย กฎระเบียบ และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย การทบทวนและผลักดันการปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ (Regulatory Guillotine) พร้อมทั้งเสนอการออกกฎระเบียบใหม่ที่เอื้อต่อการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจประกันวินาศภัย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการจัดตั้ง Regulatory Sandbox ที่สนับสนุนการทดลองและพัฒนานวัตกรรมด้านประกันภัยอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทประกันภัยให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมถึงการส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมั่นคง และสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของอุตสาหกรรม เช่น ระบบฐานข้อมูลกลาง (Centralized Data System) เพื่อยกระดับศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูล และการกำกับดูแลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

พันธกิจที่ 4: เสริมสร้างระบบนิเวศประกันภัยที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและ มีเสถียรภาพ ส่งเสริมการสร้างและพัฒนาบุคลากรเข้าสู่ธุรกิจประกันวินาศภัย โดยเน้นการยกระดับมาตรฐานความรู้ของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญและเป็นเลิศ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนาความร่วม


บทความที่เกี่ยวข้อง
ธ.ก.ส. เปิดตัว BAAC Matching เชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคโดยตรง  ดันสินค้าแกลมเกษตรทั่วประเทศสู่ตลาดดิจิทัลในคลิกเดียว
ธ.ก.ส. เดินหน้าหนุนเกษตรไทยสู่ตลาดดิจิทัล เปิดตัว BAAC Matching แพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะเชื่อมโยงลูกค้า ธ.ก.ส. เกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจชุมชนกับผู้บริโภคโดยตรงไว้ในที่เดียว โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าแกลมเกษตร ที่เต็มไปด้วยคุณภาพจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ
11 พ.ย. 2025
ครั้งแรก เด็กไทยโชว์สกิล AI  ออกแบบกระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล
เมื่อการประกวดออกแบบกระปุกมาถึงยุค AI ธนาคารออมสิน จึงได้เชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์ประกวดออกแบบ กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล ผ่าน AI Generative Tools ถ่ายทอดแนวคิดการออมในมิติใหม่
11 พ.ย. 2025
ไทยแถลงความพร้อม! เจ้าภาพ โมโตจีพี 2026 สนามเปิดฤดูกาล ใหญ่ขึ้น-สนุกขึ้น-ผู้ชมมากขึ้น ตั้งเป้าเป็นสนามที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดในปฏิทินแข่งขัน
ฐบาลไทย นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามประเทศไทย ประจำปี 2569 ภายใต้ชื่อ PT Grand Prix of Thailand 2026
11 พ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy