กลุ่มแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เดินเกมรุกต่อเนื่อง เจาะกลุ่มนักเดินทางคุณภาพ เปิดตัว โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จิ๊กซอร์สำคัญ ตอกย้ำเชนโรงแรมไทยสุดลักชัวรี คาดดันรายได้กลุ่มโรงแรมปี 2569 ทะลุ 8,000 ล้าน

กลุ่มบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล (LHMH) ผู้บริหารเครือโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจโรงแรมไทย เดินเกมรุกครั้งสำคัญส่งท้ายปี 2568 ด้วยการเปิดตัว แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (Grande Centre Point Prestige Bangkok) มูลค่าลงทุน 4,500 ล้านบาท Prestige Tier แห่งที่ 2 ของเครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ชูกลยุทธ์ Experience Marketing ตอบโจทย์ เทรนด์นักเดินทางรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าและประสบการณ์มากกว่าราคา เตรียมเปิดตัวโรงแรมใหม่ต่อเนื่อง คาดดันรายได้รวมของกลุ่มธุรกิจโรงแรมในปี 2569 ทะยานแตะ 8,000 ล้านบาท
คุณสุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิทัศน์ธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเติบโตของ กลุ่มนักท่องเที่ยวระยะไกลและกำลังซื้อสูง (High Spending) จากยุโรป ซึ่งส่งผลบวกโดยตรงต่อตลาดโรงแรม 4 - 5 ดาว ในทำเลศักยภาพ ทำให้โจทย์ของการแข่งขันในธุรกิจโรงแรมทวีความท้าทาย ไม่ได้วัดกันที่จำนวนห้องพักหรือราคา แต่แข่งขันกันที่ว่าใครจะสามารถส่งมอบ "ประสบการณ์เฉพาะตัว" ที่เปี่ยมด้วยคุณค่า ซึ่งถือเป็นโอกาสของกลุ่มฯ ที่เน้นลงทุนเชิงคุณภาพ ให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลศักยภาพสูง การออกแบบบริการที่มีเอกลักษณ์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง
ปี 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของเรา ในปีนี้เครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เปิดตัว 2 โรงแรมใหม่ ได้แก่ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี โรงแรมระดับ Prestige Tier แห่งแรกของแบรนด์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และล่าสุดคือ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ในย่านราชประสงค์ ที่ผสานความหรูหราสไตล์อาร์ต เดโค (Art Deco) เข้ากับเสน่ห์ของศิลปะไทยร่วมสมัย มอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับที่เปี่ยมด้วยความสะดวกสบายสูงสุดใจกลางมหานคร ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับพอร์ตโฟลิโอของเราไปอีกขั้น ในฐานะผู้นำธุรกิจโรงแรมไทย ที่มีความเข้าใจในหัวใจของความเป็นไทยอย่างลึกซึ้ง และสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างร่วมสมัย
คุณกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด กล่าวถึงความพิเศษของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ว่า ได้ใช้งบลงทุน 4,500 ล้านบาท โดยวางจุดยืนให้เป็นโรงแรมในกลุ่ม Prestige Tier หนึ่งในไฮไลต์ที่ทำให้โรงแรมโดดเด่นยิ่งขึ้น คือตั้งอยู่เคียงคู่กับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการแรกของแบรนด์เปิดตัวไปเมื่อปี 2551 จึงตั้งใจออกแบบให้เป็น Twin Towers รวมกันแล้วกว่า 1,000 ห้อง สะท้อนเส้นทางการเติบโตของแบรนด์ จากจุดเริ่มต้นสู่ความหรูหราระดับโลก
ทั้งนี้ คุณกิตติยังสะท้อนถึงความสำเร็จของการเปิดตัวโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า ได้รับกระแสการตอบรับดีมาก ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยกว่า 80% และมียอดจองเข้าพักล่วงหน้าช่วงไฮซีซันจนถึงต้นปีหน้าสูงถึง 90% ทำให้เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ จะทำให้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมในปี 2568 จะอยู่ที่ราว 6,000 ล้านบาท
และด้วยทิศทางของตลาดท่องเที่ยวที่ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง ทางเครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ จึงมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 4 ปี 2569 มีแผนเปิดตัว แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ วอยาจ พัทยา ซึ่งเป็น Limited Tier แห่งที่ 2 ในเครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ต่อจากแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา โดยมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ ด้วยสวนน้ำขนาด 20,000 ตารางเมตร จึงคาดการรายได้ในปี 2569 ของกลุ่มโรงแรมเติบโตไปอยู่ที่กว่า 8,000 ล้านบาท
และในไตรมาสที่ 3 ของปี 2571 ทางกลุ่มจะเปิดตัว แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ไชน่าทาวน์ ตั้งอยู่ใจกลางเยาวราชในย่านประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ เท่ากับว่าในปี 2571 บริษัทจะมีโรงแรมเปิดครบ 11 แห่ง รวมกว่า 5,000 ห้อง และคาดว่าจะสร้างรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท
ด้าน คุณเมสินี แก้วราตรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด เผยถึงแผนการตลาดของเครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ว่า จะมุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกลุ่มนักเดินทางธุรกิจระดับพรีเมียม ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมของตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่ม High-Spending และ Long-haul Tourists จากยุโรป สหราชอาณาจักร ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย และรัสเซีย ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมุ่งขยายฐานประชุมสัมมนา อีเวนต์ และจัดเลี้ยง เพื่อ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของเรา คือ Experience Marketing โดยเน้นให้ความสำคัญกับทุก Touch Point ของการเข้าพัก ตั้งแต่การออกแบบทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์บรรยากาศภายในโรงแรม ไปจนถึงการออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแขกผู้เข้าพักในทุกกลุ่ม
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ได้รับการกล่าวถึงและยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้เข้าพักอย่างต่อเนื่อง คือ การให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทางเรามีทีม Social Listening ที่รับฟังความคิดเห็นจากแขกที่เข้าพัก ที่โรงแรมทั้ง 9 สาขาของ เครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ในทุกช่องทางแบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ถูกนำไปยกระดับบริการได้ทันที ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าใหม่ นำไปสู่การออกแบบบริการและที่พักที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ความใส่ใจนี้พิสูจน์ได้จากคะแนนรีวิวจากผู้เข้าพักจริงซึ่งมีคะแนนสูงในทุกช่องทางทั้งทาง OTA และ Social media
คุณประวีร์ เหวียนระวี ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวถึงจุดเด่นของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ว่า ตั้งอยู่บนทำเลทองใจกลางย่านราชประสงค์ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส 2 สถานี คือ สถานีราชดำริ และสถานีชิดลม ภายในออกแบบอย่างหรูหรา โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากความสะดวกสบายในการพักผ่อนแล้ว ยังพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มองหาที่พักหรูในโลเคชั่นที่ดีที่สุด ทั้งลูกค้าต่างชาติและไทย ที่ให้ความสำคัญกับบริการมาตรฐาน กลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่ต้องการพื้นที่กว้างและฟังก์ชันครบ นักธุรกิจยุคใหม่ที่ผสมงานกับการพักผ่อน (Bleisure) และกลุ่ม Urban Staycation ที่ต้องการเติมพลังในที่พักพรีเมียมใจกลางเมือง ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนลูกค้าแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เน้นการพักผ่อน 70% และเป็นการเดินทางมาเพื่อติดต่อธุรกิจอีก 30%
ทั้งนี้ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ประกอบด้วยห้องพัก ห้องสวีท และเพนต์เฮาส์ จำนวน 509 ห้อง แขกผู้เข้าพักสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามได้จากห้องพักทุกห้อง ทั้งวิวเมืองย่านราชประสงค์ที่เต็มไปด้วยสีสัน หรือวิวพื้นที่สีเขียวของสนามราชกรีฑาสโมสร (RBSC) ห้องพักทุกห้องจัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับไฮเอนด์ครบครัน อาทิ สมาร์ท ทีวี, เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso, ไดร์เป่าผม Dyson และชุดผลิตภัณฑ์
อาบน้ำจาก LRL นอกจากนี้ ยังพร้อมเสิร์ฟประสบการณ์ความอร่อยผ่านร้านอาหารชื่อดัง อาทิ Chef Man Restaurant ร้านกวางตุ้งชื่อดังที่ได้รับการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ การันตีคุณภาพด้วยเมนูติ่มซำและเป็ดย่างสูตรพิเศษ หรือจะเป็น Brass House Bangkok รูฟท็อปแจ๊ซบาร์ในสไตล์การตกแต่งยุค1920s สุดคลาสสิก พร้อมวิวเมืองยามค่ำคืน เสิร์ฟอาหารไทยร่วมสมัยสไตล์แคสชวลรสชาติต้นตำรับ พร้อมเพลิดเพลินกับค็อกเทลซิกเนเจอร์ และดนตรีแจ๊ซบรรเลงสด Bloom & Brew Café คาเฟ่คอนเซ็ปต์ใหม่ที่นำเสนออาหารไทยร่วมสมัยในสไตล์โมเดิร์น พร้อมบริการอาฟเตอร์นูนที
ทางโรงแรมยังตอบโจทย์ Wellness Lifestyle มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจเพลิดเพลินกับ ออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ Let's Relax Onsen & Spa ที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สำหรับแขกที่เข้าพัก โรงแรมมีพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ ครอบคลุม 2 ชั้น ทั้งสระว่ายน้ำลอยฟ้ายาว 50 เมตร ชมวิวเมืองแบบพาโนรามา ฟิตเนส อุปกรณ์พรีเมียม TechnoGym และ Steam Sauna ให้บริการ โดยมีคลาสออกกำลังกาย เช่น มวยไทย โยคะ รองรับทุกความต้องการ สนุกผ่อนคลายได้ทั้งครอบครัวที่ Games Room อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของเครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ที่รวบรวมทั้งบอร์ดเกม เกมอาร์เคด และเกมส์ออนไลน์ อีกทั้งยังมีบริการ Kids Club พร้อมของเล่นเสริมพัฒนาการจาก Plan Toy ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน
โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 โดยติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรม ได้ที่
Website: https://grandecentrepointprestige.com/
Line@: @gcpprestige
Facebook: @gcpprestige
Instagram: grandecentrepoint.gcpprestige
Email: prestige@gcphotels.com
เบอร์โทรศัพท์ : 02 124 1888
#GrandeCentrePointPrestige #GrandeCentrePointPrestigeBangkok #GrandeCentrePoint


