กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.30-37.00 รอกนง.และเงินเฟ้อสหรัฐฯ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด
(มหาชน) ประเมินเงินบาทก่อนเทศกาลสงกรานต์มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
36.30-37.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.67 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง
36.33-36.84 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดรอบ 6 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรแต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เน้นย้ำว่าเฟดจะพิจารณาอย่างระมัดระวังเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก
อย่างไรก็ดี
ประธานเฟดมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจในระยะนี้ไม่ได้ทำให้สถานการณ์โดยรวมเปลี่ยนแปลงไปมากนัก
โดยในภาพใหญ่อัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลงเข้าใกล้ระดับ 2%
แม้จะเผชิญกับอุปสรรคบ้าง และเฟดจะตัดสินใจด้านนโยบายในการประชุมแต่ละครั้งไป
นอกจากนี้ ตลาดจับตาดูว่าทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงเพื่อพยุงค่าเงินเยนหรือไม่
ขณะที่เงินเยนย่ำฐานอยู่ใกล้ระดับอ่อนค่าสุดรอบ 34 ปี ทั้งนี้
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 1,846 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตรสุทธิ
9,550 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมีนาคมของสหรัฐฯเพื่อประเมินจังหวะการเริ่มลดดอกเบี้ยของเฟดต่อไป
หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯแข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม
อุปทานแรงงานบางส่วนเพิ่มขึ้นจากการย้ายถิ่นฐาน
ซึ่งช่วยลดความร้อนแรงของค่าจ้างได้บ้าง
ทำให้เฟดอาจจะยังยึดมั่นในแผนการลดดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้
แต่หากเงินเฟ้อพื้นฐานออกมาสูงเกินคาดตลาดจะทบทวนมุมมองอีกครั้งและเงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนต่อเนื่อง
นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.00% ในการประชุมวันที่ 11 เมษายน และส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยเดือนมิถุนายน
ขณะที่ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยไว้ที่
2.50% ในการประชุมวันพรุ่งนี้ (10 เมษายน)
เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลังภาครัฐเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณ
รวมถึงรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาท โดยเรามองว่ากนง.จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
ทางด้านดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI)เดือนมีนาคมลดลง
0.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
และอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นเดือนที่ 11
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น
0.37% ก.พาณิชย์ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป
ไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มสูงขึ้น
เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้นและเงินบาทอ่อนค่ากว่าไตรมาสแรก