พีระพันธุ์” เสนอแนวทางลดเบนซินทั้งระบบรมว.พลังงาน เสนอแนวทางลดน้ำมันเบนซินทั้งระบบ ไม่เน้นกลุ่มเปราะบางเท่านั้น จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้คำตอบเรื่องโครงสร้างราคาน้ำมันเร่งด่วน
16
ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน
ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าหลังจากที่กระทรวงพลังงานได้เสนอ 2
แนวทางจัดทำแผนช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินให้นายพีระพันธุ์ทราบคือ
มาตรการช่วยเหลือกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ลดภาระค่าใช้จ่าย มาตรการที่ 2
คือการขยายจากกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
และผู้ประกอบการขนาดเล็กอื่นๆ แต่นายพีระพันธุ์เห็นว่ายังไม่ใช่มาตรการที่ต้องการ
จึงเสนอแนวทางที่ 3 ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังและที่ประชุม
ครม.เห็นด้วยในแนวทางลดน้ำมันเบนซินในภาพรวมทุกระบบเช่นเดียวกับที่ลดราคาค่าน้ำมันดีเซล
ที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ส่วนเป้าหมายจะต้องลดไม่น้อยกว่าดีเซล
แต่ก็ต้องหารือกับกระทรวงการคลังว่า จะสามารถรับภาระได้เท่าไหร่
เราพูดล่วงหน้าไม่ได้ แต่จะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ตอบไม่ได้เมื่อถามว่า
จำเป็นจะต้องใช้การลดภาษีสรรพสามิตหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า
ต้องศึกษาให้ละเอียด หาเป้าหมายนโยบายหลักให้ไปทำงาน
ส่วนนโยบายเป็นเรื่องของผู้เกี่ยวข้อง จะต้องได้คำตอบภายใน 2
อาทิตย์“น้ำมันเบนซินมีปัญหาเรื่องโครงสร้างน้ำมัน
ผมยังไม่เข้าใจหลังจากที่มาทำงานได้เดือนกว่า คนที่ทำงานมาเป็นปียังไม่สามารถให้คำตอบผมได้
แปลกประหลาด ผมต้องศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริง หากปรับลดตรงไหนก็จะดำเนินการ
เราพูดบนพื้นฐานบนโครงสร้างน้ำมันที่ใช้มาแล้วเป็นสิบๆปี
ต้องหาแนวทางปรับลดราคามากกว่าและยั่งยืนกว่า ถ้าติดขัดเรื่องกฎหมาย ก็ต้องแก้
ไม่ใช่เรื่องยาก” รมว.พลังงานกล่าว นายพีระพันธุ์
ยังกล่าวถึงค่าการตลาด ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการทำการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ
คุยไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะข้อมูลที่ให้มาก็อ้างว่าเป็นความลับทางการค้า
จึงต้องตั้งคณะกรรมการศึกษาจริงจัง นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้คำตอบ
ต้องนำของกระทรวงเป็นทางการ ถ้าไม่ให้ก็ต้องใช้ของราชการเป็นหลัก
เมื่อให้โอกาสนำตัวเลขมาชี้แจงไม่มา ตนก็ช่วยไม่ได้
สำหรับ โครงสร้างราคาน้ำมัน
มีตั้งแต่ราคาหน้าโรงกลั่น ที่บวกค่าการกลั่นแล้ว
ที่จริงแล้วค่าการกลั่นคือกำไรเบื้องต้นไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในการกลั่นซึ่งอยู่ในงบดำเนินงาน
ตนได้บอกกับเจ้าหน้าที่กระทรวงให้เปลี่ยนคำเพราะใช้คำว่าค่าการกลั่นคนทั่วไปก็นึกว่าเป็นค่าใช้จ่าย
แต่จริงๆ มันคือกำไรของโรงกลั่น ตนให้เวลาทำงาน 30-60 วัน
เราไม่จำเป็นต้องรอเสียเวลารมว.พลังงาน
กล่าวถึงเรื่องของผู้ว่าฯการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.)ว่า ไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงพลังงาน
เอกสารเพิ่งจะมาถึงวันที่ 27 ก.ย.
อีกทั้งรมว.พลังงานมีหน้าที่แค่เสนอชื่อเข้าที่ประชุม ครม.
ตัดสินว่าจะเอาหรือไม่เอาใคร แต่เมื่อนำเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 22 พ.ค.
มีมติเห็นชอบ แต่ให้ส่งเรื่องไปให้ กกต. ให้ความเห็นชอบก่อน
แปลว่ามติรัฐมนตรียังมีเงื่อนไข ดังนั้นต้องส่งเรื่องไปที่กฟผ.
หากยืนยันแล้วก็นำเข้า ครม. อีกครั้ง
“เป็นการทำตามขั้นตอน
แต่รายชื่อบุคคลต้องไปถามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เพราะเขาเป็นผู้ส่งรายชื่อ
ผมเป็นแค่ผู้ส่งเข้า ครม. เท่านั้น” นายพีระพันธุ์กล่าว