ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thailand Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566
“ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แสดงถึงความเชื่อมั่นในอนาคตที่ยังอยู่ในระดับสูง ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ที่ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการเป็นสำคัญ”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แสดงถึงความเชื่อมั่นในอนาคตที่ยังอยู่ในระดับสูงทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ที่ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการเป็นสำคัญ” โดยมีรายละเอียดดังนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 83.4 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าและอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 52 เดือน แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่อง และในภาคเกษตร เนื่องจากคาดว่าพืชเศรษฐกิจที่สำคัญจะเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เช่น ลำไยและยางพารา เป็นต้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 82.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการภาคบริการบางรายมีแนวโน้มขยายกิจการเพิ่มขึ้น จากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 76.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และในภาคการลงทุน เนื่องจากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการบางรายมีแนวโน้มจะขยายกิจการเพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 76.0 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่และในภาคการลงทุน เนื่องจากผู้ประกอบการภาคบริการบางรายมีแนวโน้มจะขยายกิจการของตนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 74.5 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และในภาคการจ้างงาน เนื่องจากคาดว่าผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่จะจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมภายในประเทศเพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 66.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการที่หลายสายการบินปรับเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากคาดว่าผู้ประกอบการบางรายในพื้นที่มีแนวโน้มจะขยายธุรกิจของตนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 59.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และในภาคเกษตร เนื่องจากความต้องการสินค้าเกษตรของประชาชนในพื้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาคบริการได้รับผลกระทบจากค่าแรงที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
ตารางสรุปดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566
กทม. และปริมณฑล |
ภาคตะวันออก |
ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ |
ภาคใต้ |
ภาคกลาง |
ภาคเหนือ |
ภาคตะวันตก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ดัชนีความเชื่อมั่น อนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค |
59.1 |
83.4 |
76.0 |
82.9 |
74.5 |
66.3 |
76.6 |
ดัชนีแนวโน้มรายภาค |
|
|
|
|
|
|
|
1) ภาคเกษตร |
63.2 |
85.1 |
70.2 |
75.8 |
73.5 |
62.7 |
72.3 |
2) ภาคอุตสาหกรรม |
69.7 |
83.5 |
74.9 |
76.2 |
68.7 |
61.1 |
70.4 |
3) ภาคบริการ |
61.7 |
88.0 |
84.8 |
94.0 |
83.4 |
75.3 |
86.1 |
4) ภาคการจ้างงาน |
54.8 |
80.7 |
72.9 |
81.5 |
74.3 |
65.9 |
76.8 |
5) ภาคการลงทุน |
46.2 |
79.9 |
77.4 |
86.9 |
72.7 |
66.3 |
77.4 |