ทีทีบี วางกลยุทธ์สู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน สนับสนุนลูกค้าธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นธุรกิจที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย Green Transition Solutions
ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มมีมาตรการทางการค้าที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
มาตรการล่าสุดที่มีผลกระทบโดยตรงกับผู้ส่งออก คือ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ซึ่งเป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรปที่ตอนนี้เริ่มบังคับใช้กับสินค้าเหล็ก
ซีเมนต์ กระแสไฟฟ้า ปุ๋ย อะลูมิเนียม และยังมีมาตรการอีกในหลายประเทศ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เร็ว
ๆ นี้ ส่วนผู้ประกอบการในประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี
2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี
2065 โดยมี Thailand Taxonomy เป็นมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
เพื่อผลักดันธุรกิจให้เข้าสู่แนวคิดนี้ รวมถึงจะมี พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามมาด้วย
ในปีนี้ ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี จึงได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) ตามกรอบ B+ESG ที่ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเป็นเนื้อเดียวกัน
รวมทั้งสนับสนุนให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นธุรกิจที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ด้วยโซลูชันทางการเงินที่เรียกว่า Green Transition Solutions
นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า นอกจากมาตรการระดับประเทศที่ทยอยออกมาแล้ว
บริษัทต่างประเทศรายใหญ่หลายแห่งเริ่มกำหนดให้ซัพพลายเออร์และคู่ค้าต้องดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
หากไม่สามารถทำตามเกณฑ์ก็อาจเสียโอกาสในการทำธุรกิจ หรือมีต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ทีทีบีจึงได้สร้างแรงจูงใจและสนับสนุนให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อนำองค์กรไปสู่ความยั่งยืน
การมีส่วนร่วมกับลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่สีเขียว
ทีทีบีมุ่งสร้างความตระหนักให้ลูกค้าเห็นความสำคัญของการทำธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม
โดยสร้างความเข้าใจกับเป้าหมายความยั่งยืน
และเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงไปสู่แผนการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งธนาคารพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ
สัมมนา หรือการฝึกอบรม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลและคำปรึกษา
และมีการส่งมอบองค์ความรู้ในรูปแบบของงานสัมมนาและบทความภายใต้โครงการ finbiz by ttb ซึ่งถือเป็น
Hub แห่งการเรียนรู้สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
รวมถึงหลักสูตรอบรม LEAN for Sustainable Growth by ttb ซึ่งจัดขึ้นทุกปี เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับองค์กร
รวมทั้งจะมีการอบรมสัมมนาเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
กำหนด
3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
ทีทีบีทำแผน
Transition Plan เลือกอุตสาหกรรมที่จะช่วยลูกค้าหรือธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านไปสู่สีเขียวมากขึ้น
โดยจัดทำการประเมินเพื่อเลือกอุตสาหกรรม คำนึงถึงอุตสาหกรรมที่มีการปล่อย Green House Gas สูงที่ได้รับแรงกดดันให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สามารถผลักดันให้เกิดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญภายในระยะเวลาอันใกล้
จึงได้เลือก 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ
• อุตสาหกรรมด้านพลังงาน
(Energy)
• อุตสาหกรรมการทำเหมืองถ่านหิน
(Coal Mining)
• อุตสาหกรรมรถยนต์และการขนส่ง
(Transportation)
สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อสีเขียวและสีฟ้า
กลุ่มลูกค้าธุรกิจที่เป็นองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่
ส่วนใหญ่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีโครงการที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ทีทีบีจึงเตรียมโซลูชันเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ
(Transition
Finance) สู่การเป็นธุรกิจที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ประกอบด้วย
สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม
(Green Loan / Blue Loan) สินเชื่อเพื่อให้ธุรกิจลูกค้าเติบโตอย่างยั่งยืน สนับสนุนทั้งลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และเอสเอ็มอี
ตามเกณฑ์ 7
หมวดหมู่ ได้แก่ 1) พลังงานหมุนเวียน 2) การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 3) การจัดการน้ำและน้ำเสียอย่างยั่งยืน 4) การป้องกันมลพิษและการจัดการของเสีย 5) การขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาด 6) อาคารสีเขียว และ 7) การจัดการแหล่งและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
สินเชื่อที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Transition Loan) ด้วยสินเชื่อเพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป
(Solar Rooftop
Finance) เพื่อพลังงานสะอาดและลดต้นทุนค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการวงเงินไม่มากและไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และสินเชื่อรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (Hire Purchase Program for
EV) สนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อเปลี่ยนรถยนต์สำหรับธุรกิจเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
โดยมีอัตราดอกเบี้ยและโปรโมชันพิเศษ
นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อที่ผูกพันกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
(Sustainability-linked Loan) โดยการกำหนดตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมให้ผู้ประกอบการ หากทำได้ตามเป้าหมายธนาคารก็จะปรับลดดอกเบี้ยให้เพื่อสร้างแรงจูงใจ
ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกค้าปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงจากกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
“การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยทำให้โลกของเราสะอาดขึ้น และเป็นการตอกย้ำเส้นทางสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืนของทีทีบี
เพื่อให้ธุรกิจและโลกยั่งยืนไปด้วยกัน โดยปีนี้
ทีทีบีตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนสำหรับลูกค้าธุรกิจประมาณ
10,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น
60,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า” นายศรัณย์ กล่าวสรุป